หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2567

วันที่ 27 กรกฎาคม 2024 เวลา 05:53 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2567


>> แม่น้ำเมยล้นตลิ่ง เข้าท่วมตลาดริมเมย อ.แม่สอด จ.ตาก จนท.เร่งเข้าช่วยเหลือ

07.30 น. ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กว่า 100 นาย เร่งช่วยผู้ประกอบการในตลาดริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ขนย้ายสิ่งของ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเมย ยังคงเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วัน ทั้งในพื้นที่ อ.อุ้มผาง-พบพระ และแม่สอด ส่งผลให้น้ำไหลมารวมในเขต อ.แม่สอด และเอ่อล้นแม่น้ำเมย

ขณะที่สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเมย บริเวณจุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ต่อมาระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น และอยู่ในระดับสูงกว่าตลิ่ง 130 ซ.ม.

พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู นำกำลังพลประมาณ 100 นาย พร้อมรถบรรทุก และอุปกรณ์ มาช่วยพ่อค้าแม่ค้าในตลาดริมเมย ขนย้ายสิ่งของไปไว้บนพื้นที่สูง เนื่องจากระดับน้ำเมยยังเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยท่าสายลวด เทศบาลตำบลท่าสายลวด ได้ประสานให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแม่สอด เข้ามาตัดไฟฟ้าบริเวณตลาดริมเมยเพื่อความปลอดภัยของคนที่เข้าไปขนย้ายสิ่งของ โดยผู้ประกอบการยังคงทยอยเดินทางมาขนย้ายสิ่งของ


>> รถกระบะ เสียหลักฟาดเข้าต้นไม้ร่องกลาง ถนนพหลโยธิน คนขับเจ็บสาหัส ส่วนผู้โดยสารดับ 2 ราย

08.30 น. รับแจ้งจาก สมาคมอาสาสมัครกู้ภัยเกาะคา มีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บสาหัส ริมถนนทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 638 ในพื้นที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา ป้ายทะเบียน ลำปาง ลักษณะพุ่งชนเข้ากับต้นไม้ร่องกลางถนน สภาพรถพังเสียหายยับเยิน ตรวจสอบภายในรถ พบว่าคนขับรถได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเร่งนำตัวออกมา แล้วนำส่งโรงพยาบาลเกาะคา ทราบชื่อต่อมาคือ นายมานัส อายุ 54 ปี

และยังพบร่างของผู้เสียชีวิต 2 รายที่ยังติดค้างอยู่ภายในยานพาหนะ ทางอาสาสมัครร่วมดำเนินการใช้เครื่องมือตัดถ่างเพื่อนำร่างออกมาจากตัวรถ แล้วตรวจสอบเอกสารผู้เสียชีวิต เป็นชายไทย อายุ 63 ปี และ อายุ 41 ปี เป็นชาวบ้านบ้านสาด อ.เกาะคา ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา


>> เปิดปฏิบัติการ BUTCHER จับกุม 2 เครือข่าย เว็บพนันออนไลน์​ ​พบยอดเงินหมุนเวียนปีละกว่า 480 ล้านบาท

10.00 น. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ร่วมกันแถลงผล ปฏิบัติการ BUTCHER จับกุม 2 เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ หลังพบยอดเงินหมุนเวียน รวมทั้ง 2 เครือข่าย ปีละกว่า 480 ล้านบาท ตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง มูลค่ากว่า 190 ล้านบาท

โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า​ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ทายผลฟุตบอล และการพนันประเภทอื่นๆ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโดยประชาชนคนไทยโดยทั่วไปสามารถเข้าถึงได้จำนวน 2 เครือข่าย สามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนขออนุมัติหมายจับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องรวมจำนวน13 ราย ได้แก่ เจ้าของ 3 ราย ผู้จัดการ 1 ราย พนักงานและบัญชีม้า 9 ราย ซึ่งมีสมาชิกผู้เล่นกว่า 50,000 คน มียอดเงินหมุนเวียนปีละกว่า 480 ล้านบาท

ต่อมาได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญา และศาลจังหวัดสงขลา เพื่อเข้าตรวจค้น จำนวน 4 จุด ตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องได้แก่​ เงินสด 7,970,000 บาท , โฉนดที่ดิน จำนวน 25 ฉบับ มูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท , รถยนต์ จำนวน 5 คัน รวมมูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท, นาฬิกายี่ห้อหรู จำนวน 2 เรือน มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท, สมุดบัญชี บัตรกดเงิน โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รวมมูลค่าของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกว่า 190 ล้านบาท

จากการปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหา ได้รวมทั้งสิ้น 4 ราย คือ เจ้าของ 3 ราย ผู้จัดการ 1 ราย โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน "ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต และสบคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน"


>> ไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในหมู่บ้านย่านบางแค

10.17 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ถนนบางแวก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านคอนกรีต 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นบนภายในห้องนอน เพลิงลุกไหม้ห้องนอนเสียหายหมดทั้งห้อง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 16 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่พัดลมตั้งพื้น ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางแค


>> ผู้เสียหายส่งทนายยื่นร้อง ก.ล.ต. ดำเนินคดีอาญา เอาผิด สองบริษัทฯสอบบัญชี คดี "หุ้นสตาร์ค"

11.00 น. จากกรณี หุ้นบริษัท สตาร์คคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นขบวนการปั่นหุ้นฉ้อโกงประชาชนสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนนับหมื่นล้านบาท ซึ่งคดียังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และการฟ้องร้องของผู้เสียหาย ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายที่ลงทุนซื้อหุ้นกู้ สตาร์ค จำนวน 78 คน

โดยมี นายอำพล รัตนมูสิกทนายความในฐานะตัวแทนของผู้เสียหาย ได้เข้ายื่นหนังสือถึง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเรียกร้องให้ ก.ล.ต. มีมาตรการเด็ดขาดในการเพิกถอน รับอนุญาตสอบบัญชี และดำเนินคดีอาญาเอาผิดกับผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในสังกัดของบริษัท ดีลออยท์ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด และบริษัทดีลอยท์ฯ ตามอำนาจหน้าที่ของ ก.ล.ต โดยมีนางสาว อาชินี ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ และหัวหน้าศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและบริการประชาชน ก.ล.ต. เป็นผู้รับเรื่อง


>> 5 หน่วยงานบูรณาการความร่วมมือป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบด้านการเงินและการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

12.00 น. พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.). พลตำรวจตรี ประสงค์ เฉลิมพันธุ์ ผู้บังคับการ ปปป. ร่วมกับ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดย นาย มณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. , เลขาธิการ ป.ป.ง. ประชุมหารือและแถลงข่าวการบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบด้านการเงินและการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช กล่าวว่า การบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบด้านการเงินและการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ต้องขอขอบคุณ หน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มาร่วมมือกัน ปราบปรามบุคคลที่ทุจริตเงินของรัฐ ซึ่งมีการร่วมกัน 4 ป. ซึ่งตนมองว่าความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญ​ บางสิ่งบางอย่างหน่วยอื่นมีความรู้ มีความข้อมูล แต่อาจขาดกำลังสืบสวน ซึ่งเรามีกำลังมากพอ จึงคิดว่าการร่วมมือกันจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก หน้างานทุกวันนี้ไม่สามารถจบได้ด้วยหน่วยเดียวต้องมีหน่วยงานอื่นร่วมมือกัน

นาย มณเฑียร เจริญผล กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นโอกาสที่ดีมาก ที่ได้มาร่วมมือกัน ที่ผ่านมาหลายคนอาจมองว่ามีบุคคลในภาครัฐโกงยักยอกเงินแผ่นดินเยอะทำไมไม่ถูกลงโทษ วันนี้จึงเป็นช่องทางที่ดีที่สุด ที่จะเริ่มตรวจสอบ และเจ้าหน้าที่รัฐคนใดก็ตาม ที่นำเงินแผ่นดินไปใช้เป็นประโยชน์​ส่วนตัว ท่านจะฝันร้ายและถูกตรวจสอบ​อย่างรวดเร็ว จะบูรณาการ​ตั้งแต่ร่วมกันตรวจสอบ เส้นทางการเงิน สืบสวนหาผู้ร่วมขบวนการ บูรณาการ​กันเพื่อจับผู้ที่อยู่​เบื้องหลัง​ตัวการใหญ่ที่ทำให้รัฐ​เสียหาย ต่อไปนี้ทุกท่านจะเห็นการทำงานแบบนี้ 5 หน่วยงานของเราจะเป็นฝันร้ายของผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน วันนี้เป็นการประกาศให้รับรู้และเตือนไปยังผู้กระทำผิด เราจะดำเนินการอย่างจริงจังมากขึ้น


>> สืบนครบาล ร่วมกับ สน.ฉลองกรุง เชิญหลวงพี่สึก หลังก่อเหตุพรากผู้เยาว์แล้วหนีมาบวช

15.20 น. สืบนครบาล จับกุมนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ฐาน “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล” จับกุมได้บริเวณภายในวัด ซอยคุ้มเกล้า 25 ถนนคุ้มเกล้า แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ เมื่อปี 2565 ผู้แจ้งซึ่งเป็นมารดาของเด็กอายุ 13 ปี ได้ทราบเรื่องว่า บุตรของผู้แจ้ง ซึ่งอาศัยอยู่กับน้าของผู้แจ้งที่ หอพักไม่มีชื่อ แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. ต่อมาได้มี นายเอ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับไป โดยพาออกไปจากหอพักดังกล่าวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบิดามารดา เป็นการล่วงละเมิดอำนาจปกครองของผู้แจ้ง ทำให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นได้นำส่ง สน.ฉลองกรุง ดำเนินคดีต่อไป


>> สายตรวจแสมดำ ตาไว 'รวบหนุ่มส่งสินค้า รับจ๊อบขนยาบ้าลงใต้' รายได้รอบละ 6 หมื่นบาท

16.30 น. พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 และ พ.ต.อ.ปรีชา หนูสลุง ผกก.สน.แสมดำ แถลงผลงานสายตรวจ สน.แสมดำ จับกุมตัว นายปอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางยาบ้า 30 ห่อ ปั๊มตราบรรจุภัณฑ์ "999" สีน้ำเงิน รวม 300,000 เม็ด รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมตัวได้ที่ ปั๊มน้ำมัน ริมถนนพระราม 2 ขาออก ในพื้นที่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บุญเสริม สีสุข รอง ผกก.ป.สน.แสมดำ พร้อม พ.ต.ท.วีระชัย สังข์ศรี สวป.สน.แสมดำ ร.ต.ท.สุขสันต์ อรที และ ร.ต.ท.มนตรี ศิริวิเศษ รอง สวป.สน.แสมดำ พร้อมกำลังฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.แสมดำ ได้ออกตรวจตาในพื้นที่ตามวงรอบป้องกันเหตุอาชญากรรม กระทั่งพบรถของกลางคันดังกล่าว จอดอยู่ภายในปั๊มคู่กับรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีดำ ไม่ทราบทะเบียน โดยรถทั้ง 2 คันมีลักษณะเป็นรถตู้ทึบ เมื่อสายตรวจพบพิรุธ จึงแสดงตัวเข้าขอทำการตรวจค้นปรากฏว่า คนขับรถกระบะเชฟโรเลต สีดำ ไหวตัวทันเร่งเครื่องหลบหนีออกไปทางถนนพระราม 2 ขาออก ส่วน นายปอ ถูกจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาบ้าซุกอยู่ในห้องโดยสาร จึงเชิญตัวมาสอบสวนที่โรงพัก

จากการสอบสวน นายปอ ยอมรับ ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพขับรถขนส่งสินค้าให้บริษัทเคอรี่ แต่รายได้ไม่พอใช้ จึงรับการว่าจ้างจากเพื่อนชื่อนายบิ๊กและนายหนึ่ง ให้ช่วยขนยาเสพติดซึ่งรับมาจากพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มุ่งหน้าลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา หากทำสำเร็จจะได้ค่าจ้างรอบละ 60,000 บาท แต่ระหว่างจอดพักรถที่ปั๊มน้ำมันเชลล์ดังกล่าว ปรากฏว่าสายตรวจนำกำลังเข้ามาตรวจตาในท้องที่พอดี ทำให้ตนแสดงอาการมีพิรุธจนถูกจับกุมได้


>> ตามรวบ อดีตปลัด อบต.ทุจริตหลายโครงการ หนีคดีนาน 15 ปี

18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุม นายสอ (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ที่ 4/2564 ในข้อหา "ผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ" โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 1 ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

สืบเนื่องจากคดีการทุจริตเบิกจ่ายเงินโครงการฝึกอบรมปี พ.ศ.2552 จำนวน 3 โครงการของ อบต.ลาดบัวขาว ซึ่ง นายสอ (อดีตปลัด อบต.ลาดบัวขาว) เป็นหนึ่งในผู้กระทำความผิดและทางคดีอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล ต่อมาในปี พ.ศ.2564 ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งพิพากษาให้แก้โทษเป็นการจำคุก นายสอ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, 151, และมาตรา 162 ประกอบมาตรา 83 โดยให้ลงโทษตามมาตรา 151 อันเป็นบทหนักสุด จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 3 กระทง 15 ปี ซึ่งในวันที่ศาลนัดพิจารณาคดี นายสอ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา มีพฤติการณ์หลบหนีศาล ศาลจึงดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น

ต่อมาเมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2567 ทางชุดสืบสวนสถานีตำรวจทางหลวง 2 ฯ กองกำกับการ 8 ฯ ได้รับการประสานจากตำรวจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ให้ช่วยดำเนินการติดตามตัว นายสอ มารับโทษฯ โดยจากการสืบสวนติดตามทำให้ทราบบ้านพักที่ นายสอ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ จึงได้นำกำลังเฝ้ารอจนพบตัว นายสอ จากนั้นจึงทำการจับกุมตัว และนำตัวส่งศาลอาญาในคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> นายกฯ ห่วง สถานการณ์กรุงปารีส สั่งผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยกีฬาไทยเต็มที่

19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ห่วงกังวลกรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบ ห่วงใยความปลอดภัยคนไทย ที่อยู่ในกรุงปารีสตอนนี้ และนักกีฬาไทย ที่เดินทางไปร่วมแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการต่างประเทศและหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ให้ดูแลอำนวยความสะดวก คุ้มครองคนไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อความเรียบร้อยปลอดภัยไม่ให้เกิดผลกระทบ 
ทั้งนี้ ขอให้คนไทยที่อยู่ใน กรุงปารีส ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ทั้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส รวมทั้งประกาศจากทางการฝรั่งเศส ซึ่งกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินให้ติดต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ทันที อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานคนไทยว่า ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด


>> ชายคลั่ง ยิงอดีตอบต.วัย 61 ปีสาหัส ชาวบ้านผวา ตร.ยังกล่อมให้วางปืนไม่สำเร็จ

19.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเลน จ.นครปฐม รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บ้านหลังหนึ่ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน นำส่งโรงพยาบาลบางเลนแล้ว ในพื้นที่หมู่ 1 ต.บางปลา อ.บางเลน จ.นครปฐม

ส่วนคนก่อเหตุ หลังก่อเหตุแล้วหนีไปหลบซ่อนที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ห่างจากบ้านเกิดเหตุ 50 เมตร ทราบชื่อว่า นายยศ (สงวนนามสกุล) อายุประมาณ 59 ปี มีอาวุธปืนยาวที่ใช้ก่อเหตุอยู่ด้วย ทางเจ้าหน้าที่ีได้เข้าปิดล้อมบ้าน เพื่อเจรจา เกลี้ยกล่อม

ขณะที่โรงพยาบาลบางเลน ผู้บาดเจ็บชื่อ นายอำนวย (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี อดีต อบต. หมู่ 1 ต.บางปลา ถูกยิงอาวุธปืนขนาด .22 ยิงเข้าที่ศีรษะ และลำตัว รวม 2 นัด 
สอบพยาน ให้การว่าขณะเกิดเหตุ นายอำนวย นั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน ตนได้ยินเสียงปืน 1 นัด มาจากบริเวณหน้าบ้าน และเห็นผู้บาดเจ็บวิ่งไปแย่งปืนจากนายยศ บริเวณถนนหน้าบ้าน แล้วได้ยินเสียงปืนอีก 1 นัด สิ้นเสียงปืนนายยศ วิ่งหลบหนีไปที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ญาติอ้างว่านายยศ ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนั้น ป่วยโรคประสาท ต้องได้รับยา ปกติก็ให้ยาทุกวัน

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังพยายามเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธปืน และออกมามอตัว แต่ยังไม่เป็นผล โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่าง เกรงว่าจะเกิดอันตราย


>> ชายวัย 50 ปีขับรถกระบะ ชนประสานงากับรถบรรทุก เสียชีวิตร่างติดค้างในยานพาหนะ

21.05 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู จ.ชัยนาท มีอุบัติเหตุรถกระะบ ชนกับรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเส้นทาง สรรพยา - ห้วยกรด ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท

ทีเกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ สีเขียว ป้ายทะเบียน กรุงเทพฯ ลักษณะชนชนประสานงากับ รถบรรทุก สีแดง และพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายสภาพร่างติดค้างในรถกระบะ ทางอาสากู้ภัยใช้เครื่องมืองัดซากรถเพื่อนำร่างออกจากยานพาหนะ ตรวจสอเบอกสาร เป็นชายไทย อายุ 50 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สรรพยา


>> แผ่นดินไหว ที่อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย

23.31 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.7 ความลึก 2 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.สันทราย อ.พาน จ.เชียงราย ไม่มีรายงานผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา    
01.45 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.4 ความลึก 7 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 36 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย


>> คนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์

03.48 น. ศูนย์วิทยุผ่านฟ้า ตำรวจ 191 แจ้งเหตุชิงทรัพย์ คนร้ายชาย 2 คน สวมหมวกนิรภัยเต็มใบ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ใช้อาวุธมีดก่อเหตุชิงทรัพย์ ภายในซอยรามคำแหง 39 แยก 11 ได้เงินสดประมาณ 2,000 บาท หลังก่อเหตุคนร้ายขับรถหลบหนีออกถนนรามคำแหง พื้นที่ สน.วังทองหลาง

โดยผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ ขณะกำลังขายของอยู่ที่ร้าน ภายในซอยรามคำแหง 39 แยก 11 คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์มา แล้วใช้อาวุธมีดจี้แฟนของผู้แจ้ง แล้วชิงเงิน 3,000 บาท หลังก่อเหตุคนร้ายขับรถหลบหนีไปทางถนนรามคำแหง ขณะนี้ผู้เสียหายพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว 
 

ข่าวยอดนิยม