หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบอดีตลูกจ้างหน่วยงานรัฐ ปลอมเอกสารขอสินเชื่อซื้อรถยนต์ เสียหายกว่า 20 ล้านบาท พบหมายจับอีกเพียบ

วันที่ 7 มิถุนายน 2024 เวลา 15:57 น.


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามโจรกรรมรถ บช.ก. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 29 คน 59 หมาย ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง,ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม” โดยจับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.10 ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2566 ผู้เสียหายตัวแทนจากธนาคารเกียรตินาคิน เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. แจ้งความร้องทุกข์ว่า มีคนร้ายนำเอกสารปลอมมายื่นขอสินเชื่อรถยนต์กับทางบริษัทฯ จนหลงเชื่อ และอนุมัติสินเชื่อให้แก่คนร้ายไป ต่อมาภายหลังปรากฏว่า คนร้ายได้ค้างชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ที่ทางผู้เสียหายได้อนุมัติสินเชื่อไปจำนวนหลายคัน ทางผู้เสียหายจึงต้องมีการติดตามรถยนต์คืน และทำการตรวจสอบเอกสารของผู้เช่าซื้อรถ พบว่ามีผู้เช่าซื้อจำนวน 34 ราย ที่มีการใช้เอกสารปลอมมายื่นขอสินเชื่อจนเป็นเหตุให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท

จนทราบว่า เมื่อประมาณต้นเดือน สิงหาคม 2565 น.ส.ก้อย ประกอบอาชีพค้าขายรถยนต์มือสอง ตั้งอยู่ที่ ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และยังเป็นดีลเลอร์กับเต็นท์ใหญ่ในเมืองนครราชสีมา อดีตเคยเป็นพนักงานลูกจ้างชั่วคราวการเงินและงบประมาณของหน่วยงานราชการ มีความรู้เรื่องการทำหนังสือเอกสารเป็นอย่างดี ได้ร่วมกันกับผู้เช่าซื้อ ทำเอกสารปลอม และนำเอกสารปลอมไปใช้แสดงต่อธนาคาร เพื่อให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยเริ่มจากกลุ่มลูกค้าผู้เช่าซื้อ เป็นบุคคลธรรมดา ที่มีความต้องการซื้อรถยนต์ เข้าติดต่อมาทางเพจเฟซบุ๊กที่ น.ส.ก้อย และมีการนัดหมายผู้เช่าซื้อ มาเลือกดูรถยนต์รุ่นที่ตนเองสนใจ

โดย น.ส.ก้อย การันตีว่าสามารถออกรถให้ได้ โดยจะจัดทำหนังสือรับรองเงินเดือนปลอม และรายการเดินบัญชีธนาคารปลอม ให้สอดคล้องกับรายการรับเงินเดือนของผู้เช่าซื้อ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่าผู้เช่าซื้อมีคุณลักษณะตรงตามหลักเกณฑ์ มีอาชีพหลักจริงและรายได้เพียงพอที่จะสามารถผ่อนชำระค่างวดให้กับธนาคารผู้เสียหายได้ ก่อนนำเอกสารข้างต้นยื่นต่อธนาคารผู้เสียหาย และอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถตามคำขอของผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อแต่ละราย จากนั้นได้โอนเงินชำระค่ารถยนต์ตามสัญญาเช่าซื้อให้กับเต็นท์รถยนต์ เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อแต่ละรายได้รถยนต์ตามสัญญาเช่าซื้อไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจสอบไปยังหน่วยงานราชการที่ออกหนังสือรับรอง พบว่าเป็นเอกสารที่ทำการปลอมขึ้นทั้งหมด และยังพบว่าผู้เช่าซื้อทั้งหมดไม่ใช่เจ้าหน้าที่ราชการ นอกจากนี้พบเจ้าหน้าที่ ที่คอยรับสายโทรศัพท์จากธนาคาร เพื่อรับรองสถานะของผู้เช่าซื้อว่าเป็นพนักงานราชการจริง น่าเชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นในขบวนการนี้อีกด้วย ซึ่งมีผู้เช่าซื้อบางรายหลังจากได้รับรถไปแล้ว ไม่ชำระค่างวดรถ ทำการเปลี่ยนป้ายทะเบียน หลบหลีกไฟแนนซ์ หรือบางรายก็ได้ขายรถที่เช่าซื้อไปแล้ว

ตรวจสอบรายชื่อกลุ่มผู้เช่าซื้อ ในช่วงระยะเวลา 5 เดือน พบความผิดปกติว่า ผู้เช่าซื้อมีที่ทำงานเดียวกัน สามารถออกรถได้ถึง 34 คัน บางรายเปิดบัญชีธนาคารมาไม่ถึงเดือน แต่มีรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญา และศาลอาญาอนุมัติ หมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 37 คน จำนวน 67 หมายจับ

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 06.00 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับ บก.ปคม., บก.ทล. และชุดปราบปรามโจรกรรมรถ บช.ก. เปิดปฏิบัติการ “ทลายขบวนการเต็นท์รถ ปลอมเอกสารหลอกกู้ไฟแนนซ์รถยนต์” นำกำลังกว่า 240 นาย ตรวจค้น 26 จุด ในพื้นที่ 6 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ชัยภูมิ, ปทุมธานี เป็นต้น นำหมายเข้าจับกุมตัว น.ส.ก้อย ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.10 ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จากการเข้าตรวจค้นห้องพบหลักฐาน คอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ค, โทรศัพท์มือถือ, สัญญาการเช่าซื้อ พร้อมสำเนาคู่มือ, รายการเดินบัญชีเช่าซื้อรถยนต์ เป็นเอกสารเกี่ยวกับการทำเอกสารรถหลายรายการ, แผ่นป้ายทะเบียนที่บ้าน จำนวน 80 ป้าย พบ 8 ป้าย เป็นป้ายทะเบียนปลอม ทั้งนี้ได้จับกุมผู้ต้องหา พร้อมพวกได้ จำนวน 29 คน ตรวจยึดรถยนต์ รวมจำนวน 24 คัน จากนั้นนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่เป็นผู้เช่าซื้อ บางส่วนให้การว่าได้ติดต่อเช่าซื้อรถกับ น.ส.ก้อย และให้เป็นผู้ดำเนินการทางเอกสารให้ทั้งหมด บางรายทราบว่าเอกสารที่ทำเป็นเอกสารที่ปลอมทั้งหมด และบางส่วนปฏิเสธ เนื่องจากไม่รู้ว่าเป็นเอกสารปลอมมีหน้าที่ลงลายมือชื่อตามคำบอก ในส่วนของ น.ส.ก้อยเอง ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ข่าวยอดนิยม