สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานวันที่ 17 ก.พ. ถึงความคืบหน้าหลังเกิด แผ่นดินไหว ครั้งประวัติศาสตร์ในตุรกีซึ่งผ่านมาแล้ว 12 วัน ในพื้นที่ตอนใต้ของตุรกี รวมถึงทางเหนือของซีเรีย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้วเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 41,732 ราย ในจำนวนนี้แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตในตุรกี 38,044 ราย และในซีเรียอีก 3,688 ราย  ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องระดมเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34,500 ล้านบาท เพื่อเร่งช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัย ทั้งในตุรกีและซีเรีย

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวเรื่องน่ายินดีหลังจากหน่วยกู้ภัยสามารถช่วยเหลือนำตัวเด็กสาววัย 17 ปี ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.อเลย์น่า โอลเมซ ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารในเมืองคาฮ์รามันมารัช ทางตอนกลางของตุรกี เป็นเวลานานกว่า 248 ชั่วโมง 

นายอาลี อัคโดแกน คนงานเหมือง อาสาสมัครที่ร่วมภารกิจค้นหาผู้ประสบภัย เปิดเผยว่าเด็กสาวยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี

ต่อมาสถานีโทรทัศน์เอ็นทีวีรายงานว่าหน่วยกู้ภัยอีกกลุ่มพบหญิงสาวช่วงอายุ 20 ปี ทราบชื่อคือน.ส.เนสลิฮัน คิลิก ติดใต้ซากบ้านในเมืองคาฮ์รามันมารัชเป็นเวลานานถึง 248 ชั่วโมง ก่อนเจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือนำตัวออกมาได้สำเร็จ