หน้าแรก > สังคม

อุ๊ย! ผลสำรวจเผย ไทยครองอันดับ 2 เงินเดือนสูงสุดในอาเซียน

วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เวลา 12:09 น.


13 พ.ค.2567 เว็บไซด์ชื่อดังอย่าง TEMPO.CO จาการ์ตา ได้จัดอันดับรายชื่อประเทศในอาเซียนที่มี "เงินเดือนสูงที่สุด" ประจำปี 2567 และจากข้อมูลของ Time Doctor เงินเดือนโดยเฉลี่ยในเอเชียอยู่ที่ประมาณ 12,883 เหรียญสหรัฐต่อปีหรือ 472,290.78 บาทต่อปี ถ้าคิดเป็นเงินไทย แม้ว่าระดับเงินเดือนจะแตกต่างกันไปในประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ภูมิภาคโดยรวมก็มอบโอกาสมากมายให้ผู้อยู่อาศัยได้รับมาตรฐานการครองชีพในระดับสูง โดยรายชื่อประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเงินเดือนสูงสุดในปี 2567 และเงินเดือนโดยเฉลี่ยตาม Time Champ ดังนี้

1.สิงคโปร์

สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยมีเงินเดือนเฉลี่ยสูงที่สุด ยิ่งการที่สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยี ทำให้เป็นจุดดึงดูดคนที่มีทักษะสูง และประสบการณ์ตรงจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก เงินเดือนโดยเฉลี่ยในสิงคโปร์สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกมาก ซึ่งอยู่ที่ 6,332 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 171,340 บาทต่อเดือน

2.ไทย

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสอง และยังเป็นประเทศเปิดกว้างสำหรับการจ้างงานคนต่างชาติ ในตำแหน่งที่ใช้ทักษะเฉพาะด้าน โดยเป็นในรูปแบบการแข่งขันด้านเงินเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ  เงินเดือนโดยเฉลี่ยในประเทศไทยสำหรับการจ้างงานคนที่จบการศึกษาใหม่ อยู่ที่ประมาณ 20,000 - 25,000 บาท ขณะที่ผู้มีอาชีพระดับกลางสามารถคาดหวังเงินเดือนที่สูงขึ้น ตั้งแต่ 50,000 - 100,000 บาทต่อเดือน

3.บรูไน

แม้จะมีประชากรค่อนข้างน้อย แต่บรูไนดารุสซาลามก็ขึ้นชื่อด้านทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ สิ่งนี้ส่งผลให้ประเทศมีอัตราเฉลี่ยเงินเดือนสูงสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยด้วยมาตรฐานค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูงด้วย  ตามรายงานของ Salary Explorer ที่ระบุว่า รายได้เฉลี่ยในบรูไนปัจจุบัน อยู่ที่ 3,230 ดอลลาร์บรูไน หรือประมาณ 87,500 บาท

4.มาเลเซีย

มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีอัตราค่าตอบแทนและเงินเดือน รวมทั้งเปิดโอกาสในเชิงแข่งขัน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มระดับรายได้ในภาพรวม เงินเดือนโดยเฉลี่ยในมาเลเซียได้แก่ 6,610 ริงกิต หรือประมาณ 51,295 บาท

5.ฟิลิปปินส์

ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นจุดหมายปลายทางการจ้างงานคนต่างชาติเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากเปิดรับแรงงานที่มีทักษะและค่าจ้างที่แข่งขันได้  เงินเดือนโดยเฉลี่ยของฟิลิปปินส์ อยู่ที่ประมาณ 44,800 เปโซ หรือประมาณ 28,530 บาท

6. อินโดนีเซีย

อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประชากรจำนวนมากและมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แม้จะมีเงินเดือนต่ำกว่าประเทศอย่างสิงคโปร์หรือบรูไน แต่อินโดนีเซียยังคงมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคง ค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยในอินโดนีเซียอยู่ที่ 11,576.84 บาทต่อเดือน ในขณะเดียวกัน ตามข้อมูลของ Salary Explorer เงินเดือนโดยเฉลี่ยในอินโดนีเซียอยู่ที่ประมาณ 20,588.99 บาท

7. เวียดนาม

เวียดนามกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนต่างชาติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิตและเทคโนโลยี ประเทศนี้ยังขึ้นชื่อในด้านทิวทัศน์ที่สวยงาม ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจและการลงทุน ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเดือนพฤศจิกายน 2023 เงินเดือนที่น้อยที่สุดในเวียดนามคือ 7 บาทต่อเดือน ในขณะเดียวกัน เงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณเกือบเท่ากับ 26,138.58 บาท

8. ลาว

ลาวเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระดับเงินเดือนต่ำกว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและการลงทุนจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ระดับรายได้ในประเทศก็เริ่มเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากสถิติล่าสุด เงินเดือนโดยเฉลี่ยในลาวคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3,666 – 4,949 บาท

9. กัมพูชา

การเติบโตทางเศรษฐกิจในกัมพูชาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการท่องเที่ยวและการผลิต ปัจจุบันเงินเดือนโดยเฉลี่ยในกัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 5,499 ถึง 7,332 เหรียญสหรัฐต่อเดือน

10. เมียนมาร์

โดยทั่วไปแล้ว ค่าจ้างเฉลี่ยในเมียนมาร์ถือว่าต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนหลายแห่ง เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมหลายประการ เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนในเขตเมือง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ มีแนวโน้มสูงกว่าในเขตชนบท เงินเดือนโดยเฉลี่ยในเมียนมาร์คือ 5,430 บาท

11. ติมอร์-เลสเต

จากข้อมูลของ Time Camp เงินเดือนโดยเฉลี่ยในประเทศนี้อยู่ระหว่าง 5,499 บาท ถึง 9,165 เหรียญสหรัฐ  รายได้ในติมอร์-เลสเตค่อนข้างต่ำ เมื่อพิจารณาว่าประเทศนี้ยังคงมีการพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจหลังจากได้รับเอกราชจากอินโดนีเซียในปี พ.ศ. 2545

ที่มา : en.tempo.co 

ข่าวยอดนิยม