หน้าแรก > อาชญากรรม

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเหมืองบิตคอยน์ลักใช้ไฟหลวง ยึดเครื่องขุดเหรียญ 652 เครื่อง มูลค่า 200 ล้าน

วันที่ 28 เมษายน 2024 เวลา 05:09 น.


ตำรวจไซเบอร์ ทลายเหมืองบิตคอยน์ลักใช้ไฟหลวง ยึดเครื่องขุดเหรียญ 652 เครื่อง มูลค่า 200 ล้าน

27 เมษายน 2567 ตำรวจไซเบอร์ พร้อมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 (ภาคใต้) จังหวัดเพชรบุรี ได้ทำการสืบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพบว่า มีการหลอกลวงลงทุน ซื้อหรือเช่ากำลังขุดเหมืองสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) แบบ Cloud Mining สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเจ้าหน้าที่ ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 สืบทราบว่ามีการชักชวนซื้อขายเครื่องขุดบิทคอยน์ในลักษณะที่ต่ำกว่าราคาท้องตลาด น่าสงสัย และมีการรับฝากวางเครื่องขุดดังกล่าว เก็บค่าดูแลและค่าไฟฟ้าต่ำกว่าความเป็นจริง และอาจจะมีการลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยมีการซื้อขายเครื่องขุดบิทคอยน์ และรับฝากวางทำเป็นเหมืองขุด ที่ โรงแจ ศาลเจ้าพ่อแห่งหนึ่งใน ต.หนองสองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว พบว่าโรงเจดังกล่าว มีการใช้ไฟฟ้ามากในลักษณะผิดปกติจริง

จากนั้นขยายผลสืบสวนจนพบว่า ผู้ที่ขายและรับฝากวางเครื่องขุดดังกล่าว ชื่อนายวัน  (นามสมมุติ) จึงได้ทำการสืบสวนต่อไปพบว่า นอกจากที่โรงเจดังกล่าวแล้ว ยังมีการไปทำเหมือง ลักษณะเป็นโกดัง 2 อาคาร อยู่ที่บริเวณเขาแก่นจันทร์ อ.เมือง จ.ราชบุรี ด้วย จากการตรวจสอบพบว่า มีการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดปกติเช่นกัน จึงได้ยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาล ทั้งสองจุด คือ โรงเจ และ โกดังต้องสงสัยเขาแก่นจันทร์

ต่อมาวันที่ 26 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 จึงได้นำกำลังปูพรมเข้าตรวจค้นพร้อมกันทั้งสองจุด โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจค้นปรากฏว่า จุดที่ 1 โรงเจ ศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ต.หนองสองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร พบเหมืองบิทคอยน์ ทำเป็นอาคารทึบ อยู่บริเวณโรงจอดรถศาลเจ้าดังกล่าว มีนายพิน (นามสมมุติ) แสดงตัวเป็นผู้ควบคุมดูแลเหมืองดังกล่าว จากการตรวจค้นพบเครื่องขุดบิทคอยน์ ประกอบการในลักษณะเป็นเหมืองขุด จำนวน 187 เครื่อง และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าพบว่า มีการดัดแปลงบริเวณมิเตอร์ไฟฟ้าทำให้กระแสไฟฟ้าผิดปกติจริง จึงได้ตรวจยึดเครื่องขุดดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป

จุดที่ 2 โกดัง บริเวณเขาแก่นจันทร์ อ.เมือง จ.ราชบุรี พบเหมืองบิทคอยน์ ทำเป็นอาคารทึบ มีนายวัน (สงวนนามสกุล) แสดงตัวเป็นผู้ควบคุมดูแลเหมืองดังกล่าว และมีนายก้อง (นามสมมุติ) ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมดูแลเครื่องขุด ดูแลอาคารและเครื่องขุดดังกล่าว

จากการตรวจค้นพบ เครื่องขุดบิทคอยน์ ประกอบกอบในลักษณะเป็นเหมืองขุด จำนวน 465 เครื่อง และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าพบว่า มีการดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้า ทำให้กระแสไฟฟ้าผิดปกติจริง จึงได้ตรวจยึดเครื่องขุดดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี จากการสอบสวนถามนายพิน และนายวัน ให้การว่า ได้ประกอบการขายเครื่องขุดบิทคอยน์ โดยได้นำเข้าเครื่องมาจากประเทศจีน ผ่านพิธีศุลกากรถูกต้อง และนำมาจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป หากลูกค้าที่ซื้อเครื่องขุดแล้ว ตนเองจะรับฝากเครื่อง โดยคิดค่ารับฝากรวมค่าไฟฟ้า เป็นเงิน 6,200 บาท เท่านั้น แต่จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ตามปกติแล้วเครื่องขุดบิทคอย์ดังกล่าว หากมีการเปิดขุดตลอดทั้งเดือนจะเสียค่าไฟฟ้าประมาณ 9,000 บาท ต่อ 1 เครื่อง จะเห็นได้ว่าในการรับฝากวางนั้น คิดราคาค่าไฟฟ้าและค่าดูแลเพียง 6,200 บาท นั้น เป็นการจูงใจให้นักขุดสนใจ และทั้งสองเหมืองดังกล่าว ได้เปิดมาแล้วประมาณ 2 เดือน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าแจ้งว่า เป็นการดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าให้ไฟฟ้าผ่านมิเตอร์ไม่เต็มตามกระแสไฟฟ้าที่ใช้จริง มีบางส่วนเป็นการต่อกระแสไฟฟ้าไม่ผ่านมิเตอร์ ซึ่งได้คำนวณค่าไฟฟ้าที่เสียหายเบื้องต้น ทั้งสองจุดประมาณ 5 ล้านบาท

สำหรับผลการตรวจยึด จะได้ทำการตรวจสอบการนำเข้าเครื่องดังกล่าว กับกรมศุลกากรต่อไปของกลางที่ทำการตรวจยึด เครื่องขุดบิทคอยน์ รุ่นต่างๆ ราคาประมาณ 3.5 แสนบาท จำนวน 652 เครื่อง มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท 2. มิเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกดัดแปลง จำนวน 2 มิเตอร์ มูลค่าความเสียหายความเสียหายจากค่าไฟฟ้า ประมาณ 5 ล้านบาท 

ข่าวยอดนิยม