หน้าแรก > สังคม

"บิ๊กต่าย" ยืนยันเซ็นให้ "บิ๊กโจ๊ก" และลูกน้องรวม 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน

วันที่ 18 เมษายน 2024 เวลา 20:32 น.


บิ๊กต่าย ยืนยันเซ็นให้ บิ๊กโจ๊กและลูกน้องรวม 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังพฤติการณ์แห่งคดีผิดวินัยร้ายแรง ปัดมีใบสั่งและไม่กลัวถูกเอาคืนย้ำทำตามอำนาจหน้าที่ ไม่หวั่นถูกดึงเป็นคู่ขัดแย้ง

วันนี้ (18 เม.ย.67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่าได้ลงนามคำสั่งให้  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมกับ นายตำรวจอีก 4 นาย รวมเป็น 5 นาย พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยมี พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วยผบ.ตร.เป็นประธานสอบฯ โดยยืนยันว่ากระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบขั้นตอน และตนเองมีอำนาจเต็ม เนื่องจากมีการรายงานพฤติการณ์แห่งคดี และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ได้รายงานเรื่องที่ตัวเองต้องคดีไปตามกระบวนการแล้ว  จากนั้นมีการรายงานผล ส่งต่อให้กองวินัยพิจารณา ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และนายตำรวจอีก4นาย กระทำผิดวินัยร้ายแรง และตนเองได้มีการรายงานให้ นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว เพราะ นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปปฎิบัติหน้าที่ที่ สำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้ ต้องมีการส่งตัวกลับมาตามระเบียบ  โดยการสั่งออกจากราชการไว้ก่อน มีผลทันที 18 เมษายน  สวนการสอบวินัย จะเดินหน้าต่อตามกระบวนการซึ่งมีกรอบเวลา 270 วัน จึงต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพราะกระบวนการสอบวินัยใช้เวลานาน โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ตามขั้นตอนได้หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่า ไม่ได้กังวลหรือหวั่นไหวใดใด เพราะทำงานตามระเบียบ รวมถึงตนเองแม้จะเป็นแคนดิเดตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเช่นเดียวกันแต่ไม่ได้สนใจเลย เพราะตอนนี้มีบทบาทหน้าที่เป็นรักษาราชการแทน ก็ต้องทำงานตามขั้นตอนและพร้อมรับทุกสิ่งทุกอย่าง ยืนยันว่าเรื่องความขัดแย้งเป็นมุมมองของแต่ละคนซึ่งเกิดมานานแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าตนเองอาจจะกลายเป็นคู่ขัดแย้งใหม่ หรือหากผู้ถูกกล่าวหามองว่าตนเองเป็นคู่ขัดแย้งก็คงปฏิเสธไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องให้ข้อเท็จจริงไป แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ขอโต้ตอบกลับไปและขอทำงานตามบทบาทหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย และอยากให้องค์กรเดินหน้าต่อไปให้ประชาชนเชื่อถือและศรัทธา

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้รับใบสั่งจากใคร ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาจากพฤติการณ์แห่งคดีและความีร้ายแรงที่เกิดขึ้น และตนเองเพราะไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อให้เกิดความถูกต้อง ส่วนความเป็นธรรมมีอยู่แล้วเป็นสิทธิ์ที่ พล.ต.อ.สุเชษฐ์ สามารถร้องทุกข์หรืออุทรณ์ได้อยู่แล้วเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กัน แต่จะดึงตนเองเป็นคู่ขัดแย้งนั้น มองว่าถ้าเกิดขึ้นจริงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะถูกมอบหมายให้เป็นรักษาการ ผบ.ตร.ต้องอยู่ในจุดที่ต้องพร้อมรับทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่กลัวการถูกเชคบิลหรือเอาคืนหลังจากนี้ เพราะตนเองทำทุกอย่างตามอำนาจหน้าที่ด้วยความสุจริตใจและให้เกิดความเป็นธรรมกับองค์กรนี้ พร้อมย้ำว่าส่วนตัวไม่ได้คาดหวังเรื่องเป็นตัวจริง ผบ.ตร.คนต่อไปแต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ส่วนคดีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ตอนนี้เป็นคดีอยู่ที่ สน.เตาปูน ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งคดีของผบ.ตร. นายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะ เป็นตำแหน่ง ผบ.ตร.

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม