วันที่ 3 เมษายน 2567 เวลา 17:17 น.
กรุงเทพฯ, 3 เม.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (2 เม.ย.) รายงานจากหน่วยงานสังกัดสหประชาชาติ (UN) เผยว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเป็นจุดหมายหลักในการขนส่งขยะอย่างผิดกฎหมายที่ส่วนใหญ่มาจากยุโรป อเมริกาเหนือ และพื้นที่ต่างๆ ของเอเชีย
รายงานข้างต้นที่เผยแพร่โดยสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) และโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) นำเสนอแผนผังแนวโน้มการเคลื่อนย้ายขยะอย่างผิดกฎหมายจากยุโรปสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งไขกระจ่างถึงวิธีที่ผู้กระทำผิดแสวงผลประโยชน์จากการค้าที่ถูกกฎหมาย รวมถึงช่องโหว่ด้านกฎระเบียบและข้อบังคับเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน
รายงานยังสำรวจผลกระทบจากการลักลอบขนขยะอย่างผิดกฎหมายต่อเศรษฐกิจหมุนเวียนทั่วโลก ซึ่งอาศัยกลยุทธ์ทั่วไปตั้งแต่การสำแดงเท็จ และการเลี่ยงแจ้งข้อมูลหรือแจ้งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงกฎระเบียบและการควบคุม ไปจนถึงใบอนุญาตหรือเอกสารที่หายไปหรือไม่เพียงพอ
มาซูด การิมิปูร์ ตัวแทนสำนักงานฯ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก กล่าวว่าอาชญากรรมดังกล่าวกำลังส่งผลต่อการค้าขยะแบบถูกกฎหมายที่ถูกควบคุมเป็นอย่างดี ซึ่งมีส่วนส่งเสริมเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
รายงานระบุว่าแม้หลายประเทศอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศปลายทางของขยะที่ถูกขนเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย จะดำเนินข้อบังคับและมาตรการต่างๆ แต่การลักลอบขนขยะยังคงก่อให้เกิดความท้าทายที่สำคัญในภูมิภาคนี้
ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษของไทย กล่าวว่าหากจะต่อสู้กับอาชญากรรมนี้ เราต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยการอุดช่องโหว่ด้านกฎระเบียบ ดำเนินข้อบังคับเพิ่มเติม และเสริมสร้างความร่วมมือทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ รายงานฉบับดังกล่าวซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากสหภาพยุโรป (EU) ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปฏิรูปกฎระเบียบเพิ่มเติม ยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ ขีดความสามารถในการพัฒนา การวิจัย และข้อมูล ควบคู่กับการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น เพื่อปราบปรามการลักลอบขนขยะอย่างมีประสิทธิภาพ