หน้าแรก > สังคม

รู้หรือไม่? ใบสั่งค้างจ่าย ไม่ได้ป้ายภาษี เริ่ม 1 เมษายนนี้

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 17:21 น.


สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับมือกรมการขนส่งทางบก เชื่อมโยงใบสั่งระบบออนไลน์ หากพบค้างจ่ายค่าปรับจะไม่ได้รับป้ายภาษี เริ่มใช้ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป ไม่มีผลย้อนหลัง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) การเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดการกระทำผิดกฎหมาย ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายจราจรทางบก ทั้ง 2 หน่วยงานได้ร่วมกันกำหนดมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกจำนวน 2 มาตรการ ได้แก่

มาตรการที่ 1 การตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้กระทำผิดกฎจราจรและถูกตัดคะแนนแล้วจำนวน 15,456 ราย

มาตรการที่ 2 มาตรการชะลอการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี สำหรับรถที่มีใบสั่งค้างชำระ ตาม 141/1 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานจะต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลยานพาหนะ และข้อมูลใบสั่งค้างชำระ เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลได้แบบ Real Time

สำหรับมาตรการชะลอเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจะใช้กับรถยนต์ที่ที่มีใบสั่งจราจรที่ค้างชำระ ซึ่งเจ้าของรถเพิกเฉยไม่ชำระค่าปรับตามที่กำหนด โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งข้อมูลโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก เมื่อประชาชนไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี นายทะเบียนจะรับต่อภาษีประจำปี แต่ยังไม่ได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (ป้ายภาษี) โดยจะได้หลักฐานชั่วคราวแทนป้ายภาษี ซึ่งมีอายุ 30 วัน เพื่อให้ผู้นั้นไปชำระค่าปรับที่ค้างชำระให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน แล้วจึงสามารถมารับป้ายภาษีได้ แต่หากประชาชนต้องการจะชำระค่าปรับในขณะต่อภาษี กฎหมายกำหนดให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้นายทะเบียนสามารถรับชำระค่าปรับตามใบสั่งพร้อมกับชำระภาษี และรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีได้ทันที การเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งค้างชำระของทั้งสองหน่วยงาน จะเริ่มใช้กับใบสั่งจราจรตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป โดยไม่มีผลย้อนหลัง  

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม