ทลายเครือข่าย แก๊งลักรถจักรยานยนต์ส่งขายข้ามชาติ หลังชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อน ของกลางรวมกว่า 30 คัน

(22 ก.พ.67) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 5 คน

1. น.ส. เอ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 111/2567 ลง 6 ก.พ.67
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และรับของโจร”
2. นาย บี (นามสมมุติ)  อายุ 44 ปี ถูกจับกุมในข้อหา "ลักทรัพย์หรือรับของโจร"
3. น.ส. ซี (นามสมมุติ)  อายุ31 ปี ถูกจับกุมในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือร่วมรับของโจร”
4. นาย ดี (นามสมมุติ)  อายุ 34 ปี ถูกจับกุมในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือร่วมรับของโจร”
5. นาย เอ็ม (นามสมมุติ)  อายุ 23 ปี ถูกจับกุมในข้อหา “ลักทรัพย์หรือรับของโจร”
สถานที่จับกุม ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น

ของกลางที่ตรวจยึด ได้แก่
1. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่น Triton สีเทา
2. รถจักรยานยนต์ จำนวน 5 คัน
  2.1 รถจักรยานยนต์ Honda Wave 110i สีดำ-แดง
  2.2 รถจักรยานยนต์ Honda Wave Click สีเทา-ดำ
  2.3 รถจักรยานยนต์ Honda Wave 110i สีน้ำเงิน-ดำ
  2.4 รถจักรยานยนต์ Honda Wave 110i สีแดง-ดำ
  2.5 รถจักรยานยนต์ Honda Wave 110i สีแดง-ขาว
3. รถจักรยานยนต์ ที่ตรวจยึดได้ในวันที่ 4 ม.ค.67 จำนวน 4 คัน
  3.1 รถจักรยานยนต์ Honda Wave 110i สีน้ำเงิน-ฟ้า
  3.2 รถจักรยานยนต์ Honda Wave 110i สีแดง-ดำ
  3.3 รถจักรยานยนต์ Honda Wave 110i สีแดง-ดำ
  3.4 รถจักรยานยนต์ Honda Wave 110i สีดำ-เทา

พฤติการณ์สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงปลายปี 2566 ถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านจำนวนหลายราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามจับกุมคนร้าย ที่ได้ก่อเหตุตระเวน

ลักรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และพื้นที่ใกล้เคียง สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งจากการสืบสวน ทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นสองผัวเมีย ที่มีพฤติกรรมตระเวนลักรถจักรยานยนต์ตามหอพัก อพาร์ตเมนต์ และบ้านพัก เน้นพื้นที่ไม่มีกล้องวงจรปิดและพ้นสายตาผู้คน โดยที่ผ่านมามีผู้มาแจ้งความว่าถูกลักรถจักรยานยนต์ ไปแล้วกว่า 30 คัน
ต่อมาได้รับแจ้งว่า ช่วงประมาณต้นเดือนมกราคม 2567 พบรถยนต์กระบะต้องสงสัย บรรทุกรถจักรยานยนต์ 4 คัน ไปจอดที่ริมแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจเรียกตรวจสอบ พบหญิง 1 คน และชายอีก 3 คน เป็นผู้ขับขี่และโดยสารรถยนต์คันดังกล่าว อ้างว่าเป็นรถของญาติ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงได้ทำการขนรถจักรยานยนต์ลงจากรถกระบะเพื่อทำการตรวจสอบ ระหว่างนั้นเอง กลุ่มชายหญิงได้ฉวยโอกาส ทิ้งรถจักรยายนยนต์ทั้ง 4 คันไว้ และวิ่งไปขึ้นรถยนต์กระบะคันดังกล่าวแล้วขับหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวน จนทราบว่ารถจักรยานยนต์คันที่ตรวจยึด เป็นรถที่ถูกแจ้งลักทรัพย์ไว้ที่ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเจ้าของรถยนต์กระบะและหญิงที่หลบหนีคือ น.ส.เอ จึงได้ทำการออกหมายจับเพื่อติดตามจับกุม และสืบสวนขยายผลเครือข่าย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ป. ทำการสืบสวนขยายผล ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เชื่อว่าแก๊งดังกล่าวมีการกระทำความผิดกันเป็นขบวนการ และได้สืบทราบว่า น.ส.สุภาวดีฯ ได้หลบหนี มาอยู่ที่ จ.ขอนแก่น จึงได้เปิดปฏิบัติการ “ทลายเครือข่ายลักรถจักรยานยนต์ข้ามชาติ” นำกำลังลงพื้นที่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น, สภ.บ้านแฮด ทำการตรวจค้น จำนวน 4 จุด ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ได้แก่

1. ต.หนองแซง อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ทำการจับกุม น.ส.เอ ผู้ต้องหาตามหมายจับฯ ตรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ที่พึ่งถูกลักมาจำนวน 1 คัน และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ Triton สีเทา โดย น.ส.เอ  ให้การรับว่าร่วมทำกับนายบี สามี  โดยมีนายทุน จาก สปป.ลาว เป็นผู้สั่งการ ให้ลักรถจักรยานยนต์ขนไปวางตามจุดริมโขง ก่อนข้ามไปยัง สปป.ลาว ได้รับค่าจ้างคันละ 5,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุม นายบี ในข้อหา "ลักทรัพย์หรือรับของโจร" หลังจากจับกุมผู้ต้องหาได้ให้การซัดทอดว่ามี น.ส.ซี และนายดี 2 สามีภรรยาที่ทำหน้าที่ตะเวนลักรถ ก่อนให้พวกตนไปส่งข้ามฟากไปยัง สปป.ลาว และรับว่าได้ซุกซ่อนรถจักรยานยนต์อีกจำนวน 1 คันที่บ้านเอื้ออาทร จึงสมัครใจพาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้น

2. บ้านเอื้ออาทร ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน
3. รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบ น.ส.ซี และนายดี พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ หรือร่วมรับของโจร” จากการสอบถามให้การรับว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุมามากกว่า 20 ครั้ง และได้ให้การว่าพวกตนนำรถที่ลักได้บางส่วนไปขายให้กับ นายเอ็ม โดยขายได้คันละ 4,000-5,000 บาท
4. บ้านบริเวณ ถนนประชาสโมสร ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น พบนายเอ็ม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ลักทรัพย์หรือรับของโจร” พร้อมด้วย รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับ นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 และของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป