จากกรณี เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายปรีชา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ทายาทมรดกที่ดิน 150 ล้านที่เคยตกเป็นข่าวข้อพิพาท โดยแพทย์ชันสูตรไม่พบบาดแผลตามร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-7 ชม. ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนแล้วนั้น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ วัดบางขวาง อ.เมืองนนทบุรี น.ส.ศิริลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ภรรยาผู้ตาย และ น.ส.นุสรา (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี แม่ยาย เดินทางเข้าติดต่อเจ้าหน้าที่วัดเพื่อเตรียมรับศพ นายปรีชา อายุ 42 ปี ทายาทมรดก 150 ล้านที่เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งร่างชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567

เบื้องต้นทางครอบครัวภรรยาผู้เสียชีวิตได้กำหนดสวดอภิธรรมเป็นเวลา 2 คืน คือ วันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 18.00 น.และจะทำการฌาปนกิจวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.00 น. ส่วนทางด้านคดี น.ส.ศิริลักษณ์ อายุ 32 ปี ภรรยาผู้ตาย และน.ส.นุสรา อายุ 52 ปี แม่ยาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวไปสอบปากคำแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรผู้เสียชีวิต โดยเบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ที่วัดบางขวาง อ.เมืองนนทบุรี น.ส.ศิริลักษณ์ ภรรยาผู้ตาย และน.ส.นุสรา แม่ยายผู้ตาย พร้อมครอบครัวและเพื่อนได้รับศพนายปรีชา จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อมาทำพิธีทางศาสนา โดยจะรดน้ำศพในเวลา 16.00 น. และสวดอภิธรรมในเวลา 18.00 น.เป็นคืนแรก โดยหนังสือรับรองการตาย จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สาเหตุการเสียชีวิตว่า กล้ามเนื้อหัวใจตาย จากหลอดเลือดหัวใจตีบ

น.ส.นุสรา แม่ยายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้หลังจากตนกับลูกสาวเดินทางกลับจากการไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง  แล้ว ระหว่างเดินทางกลับบ้าน ตนกับลูกสาวได้แวะไปหาเพื่อนเพื่อยืมเงินมาใช้ในการจัดงานศพให้กับนายปรีชา ลูกเขยที่เสียชีวิต ปรากฏว่าหลังตนจอดรถลงไปคุยธุระกับเพื่อนจนเสร็จแล้ว เมื่อกลับมาที่รถพร้อมลูกสาวแล้วสตราท์รถเพื่อจะกลับบ้าน ปรากฏว่ารถเก๋งที่ขับไปกลับสตาร์ทไม่ติดโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆ ที่ขับมาเป็นปกติ ตนจึงพยายามสตาร์ทรถต่อไปเป็นเวลากว่าครึ่งขั่วโมง รถเก๋งก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสตาร์ทติด จนเพื่อนที่ตนไปหา ต้องเดินออกมาช่วยดูอาการของรถและช่วยสตาร์ท แต่รถก็ยังสตาร์ทไม่ติดอยู่ จนกระทั่งสุดท้ายเพื่อนจึงเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งที่เบาะคนขับ พร้อมกับเอามือตบเบาๆ ไปที่พวงมาลัยของรถ แล้วพูดบอกว่า ตั้มอย่าไปแกล้งแม่เขาแบบนี้ ให้ช่วยพาแม่กลับไปให้ถึงบ้านที เพราะพรุ่งนี้แม่ต้องไปเตรียมงานให้กับตั้มอีกหลายอย่าง ซึ่งหลังจากพูดเสร็จแล้วตบพวงมาลัยเบาๆไปอีกรอบ ปรากฏว่าสามารถสตาร์ทรถเพียงครั้งเดียวก็ติดเลย สร้างความประหลาดใจให้ตนกับลูกสาวเป็นอย่างมาก

แม่ยายของนายปรีชา เปิดเผยอีกว่า หลังสตาร์ทรถติดและขับรถกลับบ้านกันนั้น ปรากฏว่าระหว่างทางตนกับลูกสาวได้กลิ่นของยาดมพิมเสนฟุ้งอยู่ในรถอีก ทั้งๆ ที่ไม่มีใครดมยาดมอยู่ในรถ แต่ตนสองคนแม่ลูกจำกลิ่นยาดมกลิ่นนี้ได้ดีว่าเป็นกลิ่นยาดมที่ลูกเขยพกติดตัวใช่ดมเป็นประจำ จนขนลุกกันไป ตนเชื่อว่าวิญญานของลูกเขยที่ผูกพันกับตนคงติดตามมาในรถด้วย ตนจึงได้พูดยอกไปว่า ตั้มอย่ามาเล่นแบบนี้นะลูก แม่กลัว และแม่จะต้องไปจัดเตรียมงานให้กับตั้มในวันพรุ่งนี้อีก

น.ส.นุสรา แม่ยายเปิดเผยอีกว่า ส่วนเรืองตั้มลูกเขยได้มาขอตนไว้ก่อนเสียชีวิต 2 เรื่อง คือเรื่องพาไปเที่ยวทะเลกับเรื่องซื้อรถกระบะนั้น เมื่อเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว ตนจึงตัดสินใจว่าจะซื้อรถกระบะจำลองมาเผาส่งให้เขาไปตามที่เขาต้องการก่อน จากนั้นหลังงานเผาศพแล้ว ตนกับครอบครัวจะนำเถ้ากระดูกของลูกเขยไปลอยอังคารที่ทะเลตามที่เขาต้องการแทน นอกจากนี้เรื่องเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์นั้น ทางตนก็พร้อมที่จะเปิดร้านให้น้องๆเขาได้ทำตามที่ลูกเขยต้องการต่อไป เพียงแต่ในตอนนี้ตนกับครอบครัวก็ยังไม่มีมากพอที่จะเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ในตอนนี้ เพราะต้องนำเงินมาใช้จ่ายในการจัดงานศพให้กับทางลูกเขยคนนี้ก่อน ซึ่งเขาเองก็ไม่มีใคร มีแต่ตนกับครอบครัวตนที่เขาอยู่ด้วยกันมาจนรักและผูกผันกัน เราก็ต้องจัดงานให้เขาให้ดีที่สุด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานสำหรับประกอบสำนวนคดี ส่วนที่วัดบางขวางยังไร้เงาญาติฝั่งครอบครัวแม่ของผู้เสียชีวิตร่วมงาน ซึ่งต้องรอดูว่าจะเดินทางมาร่วมฟังสวดในคืนนี้หรือไม่