รวบสาวสองแสบฉกทรัพย์สินชาวต่างชาติกว่า 2 แสน หลังเจอที่ถนนข้าวสารชวนมาต่อคอนโดย่านบางใหญ่

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางใหญ่ พ.ต.ท.กรณรงค์ ศุภนันทนานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.บางใหญ่ พ.ต.ท.พายุ นิลละออ สว.สส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมนายพัฒน์ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 โดยแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ จับกุมได้ที่บริเวณหน้าพิบูลย์คอนโดวิลล์ ซอยสภาร่วม แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลาง 15 รายการ รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 67 เวลา 14.10 น. MR.DANIEL อายุ 24 ปี ชาวอังกฤษ เข้าเเจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.บางใหญ่ ว่า ถูกคนร้ายเป็นสาวประเภทสอง ลักทรัพย์สินของมีค่าหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกของคืนวันทึ่ 9 กุมภาพันธ์ที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านอ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์2567 ผู้เสียหายและเพื่อนชายซึ่งเป็นคนสัญชาติเดียวกัน ได้ไปเที่ยวที่ถนนข้าวสาร จากนั้นได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมาทราบภายหลังว่าสาวประเภทสอง หลังออกจากร้านเหล้าได้ชวนกันกลับมาดื่มกินกันต่อที่ห้องพักของผู้เสียหาย ที่คอนโดเเห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น. ผู้เสียหายได้ตื่นขึ้นมาพบว่าทรัพย์สินสูญหายหลายรายการ มูลค่ากว่า 2000,000 บาท

MR.DANIEL กล่าวว่า ตนเองมาเที่ยวที่เมืองไทยเป็นครั้งแรก โดยพักที่โรงแรมย่าน อ.บางใหญ่ จากนั้นเพื่อนชวนไปเที่ยวที่ถนนข้าวสารแต่ตนเองไม่ได้ไปด้วย แต่เช่าห้องไว้ และเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่หายไป ซึ่งเพื่อนไปเที่ยวแล้วเจอผู้หญิงคนหนึ่งและชวนกันกลับมาดื่มกินกันที่ห้อง ซึ่งตนก็อนุญาตให้พามาได้ ตอนเช้าตรวจสอบทรัพย์สินพบว่าของได้หายไป จึงแจ้งความที่สภ.บางใหญ่ และขอขอบคุณตำรวจ สภ.บางใหญ่ ที่สามารถจับกุมคนร้ายและติดตามทรัพย์สินกลับคืนมาได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

พ.ต.อ.รณภัฎ กล่าวว่า ได้รับแจ้งมีเหตุลักทรัพย์ชาวต่างชาติที่คอนโดย่านบางใหญ่ จึงให้ชุดสืบสวนไปตรวจสอบพบว่ามีทรัพย์สินหายไปหลายรายการ มูลค่ารวมประมาณ 2 แสนบาท จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบผู้ต้องหา ขึ้นห้องมากับเพื่อนของเจ้าของห้องที่เป็นชาวต่างชาติ จากนั้นตื่นมาตอนเช้าพบว่าทรัพย์สินหายไป โดยทราบว่าไปเจอผู้ต้องหาที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แล้วกลับมาด้วยกัน

พ.ต.อ.รณภัฎ กล่าวอีกว่า โดยตำรวจชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาเอาไว้ได้ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน และใช้บัตรเครดิตของบุคคลอื่นโดยไม่ชอบ จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้รับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา สุดท้ายนี้ขอฝากเตือนไปยังนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวในประเทศไทย การที่จะรู้จักใครต้องระมัดระวังตัวให้ดี เพราะมิจฉาชีพจะแฝงตัวเข้ามาในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่เราไปเที่ยวพอรู้จักกันแล้วต้องดูให้ดี อย่าไว้ใจพาใครเข้ามาในห้อง มิฉะนั้นท่านอาจจะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพได้