สาวพีอาร์ร้องเพจดัง ถูกสาวทอมทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ ผ่านมาเกือบ 2 ปีคดีไม่คืบหน้า

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 ก.พ.67 ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว พร้อมทีมงานได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส. เฌอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดนครนายก PR สาวร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี ว่าถูกสาวทอมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บขณะทำงาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย.65 เวลา 03.30 น. ผ่านมาเกือบ 2 ปีคดีไม่คืบหน้า

หลังรับเรื่องร้องเรียนเพจกล้าที่จะก้าวได้พาผู้เสียหายเข้าพบ พ.ต.ท.ชนิด เสือดาว รอง ผกก.สอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดี พบว่า ผลแพทย์ยังไม่ออก และยังไม่ออกหมายเรียก ผู้เสียหายยังไม่ได้ชี้รูปพรรณผู้ก่อเหตุ จึงได้ทำการนัดหมายผู้เสียหายเพื่อสอบปากคำและชี้รูปพรรณ โดยให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดผลตรวจร่างกายโดยด่วนเพื่อประกอบสำนวน

น.ส. เฌอ เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 30 เม.ย.65 ตนทำลานเป็นพีอาร์ในร้านเหล้า ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ขณะทำงานมีพนักงานเสิร์ฟที่เป็นสาวทอม ชื่อ บี (นามสมมุติ) มาบอกว่าตนเดินชนเขา จึงพากันออกมาคุยที่ด้านหน้าร้าน เมื่อออกมาพูดคุยมีปากเสียงกันเขาได้ใช้มือผลักตนจนล้ม จากนั้นก็ใช้เท้ากระทืบ จนได้รับบาดเจ็บจากการกระแทกเศษหินที่เทลานด้านหน้าร้านไว้ ซึ่งตอนที่เกิดเรื่องก็มีเจ้าของร้านและการ์ดยืนดูอยู่ ไม่ได้มีการห้ามปราม พอตนลุกขึ้นมาได้ตนก็มีการด่ากลับไปด้วยคำหยาบว่า ทำไมไม่มีใครห้ามเลยทั้งที่ตนถูกทำร้าย ทอมชื่อบี ก็โมโหหาว่าตนด่าเจ้าของร้านเตะมาที่ตนอีก หลังเกิดเหตุตนก็นั่งแท็กซี่กลับบ้าน แฟนเก่าพาเดินทางเข้าแจ้งความเพราะตนบาดเจ็บไปไม่ไหว หลังจากนั้นตอนเช้าตนเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตำรวจให้ตนไปหาชื่อนามสกุลผู้ก่อเหตุมาเพื่อลงในรายละเอียด จากนั้นได้ทำใบส่งตัวไปตรวจร่างกายที่ รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ หลังตรวจร่างกายตนได้เดินทางกลับไปที่ร้านที่เกิดเหตุเพื่อขอกล้องวงจรปิด ทางร้านบอกว่าให้ไม่ได้ถ้าอยากได้ให้ตำรวจมาเอาเอง เพราะทางร้านรู้จักกับตำรวจ หลังจากนั้นคดีก็ไม่มีความคืบหน้าอีกเลย

น.ส. เฌอ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์นั้นตนได้รับบาดเจ็บที่ขาทั้ง 2 ข้าง ที่เหนือคิ้วซ้าย ที่ไหล่ขวาด้านหลังและที่ฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง หลังจากแจ้งความไปไม่มีสอบปากคำตน ไม่มีการออกหมายเรียก ตนเคยเข้ามาตามคดีเมื่อประมาณเดือน พ.ย.66 ไม่เจอเจ้าของคดีแต่ได้เบอร์โทรศัพท์ ทางตำรวจบอกว่าทำไมปล่อยคดีนานไม่มาตาม ตอนนี้ตำรวจยังไม่รู้ชื่อผู้ก่อเหตุ หลังจากนั้นตำรวจก็นัดมาที่โรงพักก็ได้ตำตอบว่ายังไม่รู้ชื่อผู้ก่อเหตุหรือไม่ก็ให้ตนขับรถไปล่อผู้ก่อเหตุที่ร้าน แล้วให้ตำรวจไปจับเลย ล่าสุดที่ตนมาตามคดีคือ วันที่ 27 ธ.ค.66 ก่อนที่จะร้องมาที่เพจกล้าที่จะก้าว วันที่เข้ามาพบตำรวจเมื่อเดือน ธ.ค.67 ตนเตรียมหลักฐานมาให้ และได้พบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ซึ่งสืบสวนรู้จักเจ้าของร้านและแจ้งว่าจะตามให้ ซึ่งขณะตนขับรถกลับบ้านทางตำรวจก็โทรมาแจ้งว่ารู้ชื่อผู้ก่อเหตุแล้ว เดี๊ยวค่อยนัดเจรจากันอีกที ต่อมาทางตำรวจแจ้งมาว่าผู้ก่อเหตุจะจ่ายเงินให้ 6,000 บาทแล้วจบ แต่ตนไม่ยอมจบเพราะตนได้รับบาดเจ็บต้องรักษาตัวและหยุดงาน ตนจึงแจ้งไปว่า ให้เขาจ่ายค่าเสียหายมา 20,000 บาท ซึ่งตำรวจแจ้งว่างั้นไม่คุยให้แล้วเพราะผู้ก่อเหตุไม่มีจ่าย หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบไปจนเดือน ม.ค.ตนโทรมาตามคดีอีกทีทางตำรวจก็แจ้งว่าก็ตนเรียกค่าเสียหายมากเกินไปให้รอไปก่อน ทำให้ตนต้องมาร้องทางเพจเพราะตนพยายามตามเรื่องเองแล้ว ตำรวจรู้ตัวแล้วก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า

นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว กล่าวว่า เรื่องนี้ผู้เสียหายทักเข้าไปที่เพจตนว่าถูกทำร้านร่างกายที่สถานบันเทิง แถวเลี่ยงเมืองนนทบุรี ได้มีการแจ้งความและติดตามคดีมาตลอดแต่คดีไม่คืบ ก็ฝากถึงผู้กำกับ สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้ติดตามตัวคู่กรณีมาดำเนินคดี เพราะน้องเป็นเด็กผู้หญิงมาทำงานหาเงิน ทำเงินให้กับทางร้านแต่ไม่มีการดูแลหรือห้ามปรามเหตุที่เกิดขึ้น

เบื้องต้น พ.ต.ท.ชนิด เสือดาว รอง ผกก.สอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเองทันที พร้อมทั้งเรียกสำนวนมาตรวจสอบ เพื่อเร่งรัดให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุโดยทันที