หน้าแรก > อาชญากรรม

ซ้ำอีกรอบ บุกจับผับดัง ย่านอ้อมน้อย สมุทรสาคร พบนักเที่ยวฉี่ม่วงกว่า 77 คน

วันที่ 27 มกราคม 2024 เวลา 09:20 น.


ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ซ้ำอีกรอบ บุกจับผับดัง ย่านอ้อมน้อย สมุทรสาคร พบนักเที่ยวฉี่ม่วงกว่า 77 คน พนักงานร้านยืนยัน "ผับนี้มีแต่คนเล่นยา”

วันนี้ (27 ม.ค. 67) เมื่อเวลา 02.45 น. ที่บริเวณ ถ.เพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กว่า 30 นาย ร่วมกับ ปปส.ภาค 7 ฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร ฝ่ายปกครองอำเภอกระทุ่มแบน และตำรวจภูธรกระทุ่มแบน เข้าทำการจับกุมผับดังย่านอ้อมน้อย ซึ่งเป็นสถานบริการละเมิดกฎหมาย เปิดเกินเวลา ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา หนำซ้ำยังยินยอมให้นักเที่ยวใช้สารเสพติดภายในสถานบริการอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้เน้นย้ำว่า "การจัดระเบียบสังคมและการปราบปรามผู้มีอิทธิพลเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย" โดยมุ่งเน้นการจัดระเบียบสังคมเพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ประชาชนมีความมั่นคง ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สิ่งใดที่ขัดกับความมุ่งหมายนี้ ก็คือสิ่งที่เราต้องใช้กลไกของรัฐในการกำจัดให้สิ้นไป เพื่อทำให้บ้านเมืองมีความผาสุก ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข ที่สำคัญสถานบริการสามารถเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะต้องไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ไม่มีอาวุธ ไม่มียาเสพติด และไม่มีการค้ามนุษย์ หากพบการกระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีละเว้น

"ปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรมการปกครองได้รับเรื่องร้องเรียนว่าในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มีสถานบริการชื่อดังย่านอ้อมน้อย มีการปล่อยปละละเลยให้นักเที่ยวใช้สารเสพติดภายในสถานบริการ และยังแสดงดนตรีส่งเสียงดังรบกวนชุมชน เปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และอวดอ้างว่ามีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้การสนับสนุน จึงขอให้กรมการปกครองทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว โดยกรมการปกครองได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมปกครองส่งสายลับเข้าสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าสถานบริการชื่อดังย่านอ้อมน้อย มีการกระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียน ซึ่งในคืนวันที่ 26 มกราคม 2567 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 27 มกราคม 2567 ชุดสายลับได้แจ้งไปยังชุดจับกุม เพื่อเปิดปฏิบัติการจู่โจมจับกุมสถานบริการดังกล่าวทันที โดยเมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ พบนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน กำลังดื่มด่ำบรรยากาศความสนุกสนานกันอย่างเมามัน และเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว นักเที่ยวต่างแตกตื่นโยนยาเสพติดทิ้งเกลื่อนกลาดเต็มพื้น และพยายามหลบหนี กรูกันดันประตูหลบหนีออกไปจำนวนมาก โดยเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองได้ควบคุมนักเที่ยวที่เหลือไว้ได้จำนวนหนึ่ง และประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ แล้วจึงร่วมกับเจ้าพนักงาน ปปส.ภาค 7 ทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของนักเที่ยวทุกราย" นายอรรษิษฐ์ฯ กล่าว

ผลการตรวจสารเสพติด พบผู้มีสารเสพติดในปัสสาวะ 77 ราย แยกเป็น ชาย 38 ราย หญิง 39 ราย และขณะทำการตรวจนั้น พบพนักงานของทางร้านรายหนึ่ง เปิดเผยกับสายลับ ว่า “ผับนี้มีแต่คนเล่นยา” ทั้งนี้ พนักงานฝ่ายปกครอง ได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน และร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด คือ 1. เปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 2. ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในสถานบริการ 3. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย 4. จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อีกทั้ง ยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 โดยเตรียมเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครสั่งปิดสถานที่เป็นเวลา 5 ปี

นอกจากนี้ยังพบว่า สถานบริการแห่งนี้เคยถูกชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจับกุมฐานเปิดผับอัพยาและถูกสั่งปิดสถานที่เป็นเวลา 5 ปี มาแล้วเมื่อปี 2561 ปัจจุบันตัวอาคารเดิมถูกหั่นครึ่ง และปรับปรุงใหม่ แต่ก็ยังไม่หลาบจำกล้ากลับมาลักลอบประกอบธุรกิจท้าทายกฎหมายซ้ำอีก และจากการสืบสวนทางลับพบเป็นผับที่มีผู้อิทธิพลในพื้นที่หนุนหลังอีกด้วย ซึ่งหลังจากนี้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจะนำเรื่องส่งต่อไปยังคณะกรรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพลจังหวัดสมุทรสาครเพื่อขยายผลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

 

ข่าวยอดนิยม