หน้าแรก > อาชญากรรม

ตำรวจ สอท. จับแก๊งหลอกโหลดแอปดูดเงิน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง

วันที่ 18 ธันวาคม 2023 เวลา 16:25 น.


ากการประสานความร่วมมือระหว่าง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒนครบัญชา ผบช.สอท. เร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการพนันออนไลน์ทุกรูปแบบ ด้วยการตั้งศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 เพื่อเป็น One Stop Service แก้ปัญหาออนไลน์แก่ประชาชน โดยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมี War-room  เพื่อใช้บูรณาการในการติดตามสถานการณ์ สั่งการ ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามโจรออนไลน์อย่างทันเวลา โดยเน้นมาตรการเชิงรุก คือ “ระงับ” หรือ “อายัด” บัญชีของคนร้ายให้แก่ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงออนไลน์ทันที  

ล่าสุดวันนี้ เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ แถลงข่าว “CYBER GUARDIAN จับแก๊งหลอกโหลดแอปดูดเงิน อายัดเงินได้ทัน 9.6 แสน คืนผู้เสียหาย โดยจับกุมเครือข่ายผู้ร่วมกระทำผิดในการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมบัญชีกลาง โทรหลอกลวงผู้เสียหายว่ารัฐบาลจะให้รับเงินบำเหน็จบำนาญ เดือนละ 2 ครั้ง แล้วให้แอดไลน์เพื่อส่งลิงก์ให้กดดาวน์โหลดแอปหน่วยงานของปลอม ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้ควบคุมโทรศัพท์ทางไกล แล้วหลอกให้ผู้เสียหายทำตามขั้นตอน รวมถึงการหลอกให้ใส่รหัสผ่าน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักใช้รหัสเดียวกันกับรหัสแอปธนาคาร จากนั้นมิจฉาชีพจะสนทนาเพื่อถ่วงเวลาในขณะที่กำลังโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย แต่ขณะนั้นผู้เสียหายสังเกตพบว่าโทรศัพท์ของตนค้าง ไม่สามารถปิดเครื่องหรือดำเนินการใดใดได้ จึงรู้ตัวและรีบเดินทางไปที่ธนาคารจนพบว่าเงินในบัญชีธนาคาร 2 บัญชีถูกโอนไปยังบัญชีคนร้าย จำนวน 5 ครั้ง รวมประมาณ 1.2 ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินได้ทันจำนวน 960,192.72 บาท

จากข้อมูลของธนาคารพบว่า เงินของผู้เสียหายได้ถูกโอนไปยังบัญชี  ผู้ต้องหาที่ 1 จำนวน 1 ครั้ง จำนวน 1,009,992.72 บาท (ถูกโอนต่อไป 40,000 บาท อายัดได้ทัน 960,192.72 บาท) และ โอนไปยังบัญชีบัญชี  ผู้ต้องหาที่ 2 จำนวน 4 ครั้ง ครั้งละเกือบ 50,000 บาท จำนวน 4 ครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 1 เป็นชายอายุ 46 ปี ชาวสระแก้วได้ โดยชุดสืบสวน กก.3 บก.สอท.2 ได้ลงพื้นที่ติดตามตัวจนทราบว่าผู้ต้องหา หลบหนีเพื่อซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยจะย้ายที่หลบซ่อนไปเรื่อย แต่ยังวนเวียนในพื้นที่ดังกล่าว ต่อมาวันที่ 14 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 16.30 น. จึงได้วางแผนเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาได้บริเวณหน้ากระท่อมกลางทุ่งนา หมู่บ้านเนินขาม หมู่ 11 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว

จากนั้น ได้ประสานงานกับธนาคารกสิกรไทยเพื่อให้ผู้ต้องหาถอนเงินที่อายัดไว้ได้ทัน ซึ่งผู้ต้องหาให้ความยินยอมแต่โดยดี เนื่องจากมีคนเคยจ้างให้เปิดบัญชีในราคา 1,100 บาท จึงยืนยันว่าเงินดังกล่าวไม่ใช่เงินตัวเอง และได้ถอนคืนให้แก่ผู้เสียหายได้ จำนวน 960,192.72 บาท จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยปัจจุบันผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี

โดยพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีผู้ต้องหา ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงเป็นเจ้าพนักงาน, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน”

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือเพิ่มเติมทั้งหมด เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และเร่งติดตามเส้นทางการเงินเพื่อนำเงินมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนพึงระลึกไว้เสมอว่า เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีการติดต่อผ่านโทรศัพท์หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อให้ดำเนินการติดตั้งแอป หรือ ล็อกอินระบบใดใดทางออนไลน์เด็ดขาด นอกจากนี้ การซื้อขายบัญชีธนาคารยังมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาสายด่วน AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
 

 

ข่าวยอดนิยม