วันที่ 15 ธันวาคม 2566 เวลา 15:53 น.
พลตำรวจตรี ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. ร่วมกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แถลงการณ์จับกุม นาย สอ(นามสมมุติ) โค้ชฟุตบอล อายุ 43 ปี พร้อมผู้สนับสนุน ทีมฟุตบอล อดีตนายทหารยศพันตรีเกษียณราชการ
โดยนางปวีณา ระบุว่า สืบเนื่องจากมีแม่เด็กชายวัย 10 ขวบ เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อทางมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กตรี เพื่อขอช่วยเหลือลูกชาย และเพื่อนวัยเดียวกันถูกโค้ชและผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ร่วมกันล่วงละเมิด พาตระเวนไปตามโรงแรมต่างๆ เพื่อถ่ายคลิปข่มขู่เป็นเวลานานนับปี โดยจากข้อมูลของมารดา เยาวชนชาย ระบุว่า ที่ผ่านมามีโค้ชสอนฟุตบอลชายและผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล วัย 64 ปี จัดตั้งทีมฟุตบอลเยาวชนชาย ได้มาขอใช้สนามฟุตบอลโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จังหวัดอุดรธานี เพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกซ้อม ซึ่งจะมีเด็กนักเรียนชายในโรงเรียนอายุ 9 -13 ปี สนใจกีฬาฟุตบอลเข้าร่วมสมัคร ก่อนที่เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เด็กชายเอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 เอาเสื้อฟุตบอลไปคืนครูและบอกว่าจะไม่เล่นฟุตบอลอีกแล้ว ครูจึงแปลกใจเพราะเด็กรักในการเตะฟุตบอลมาก จึงได้ถามจน ด.ช.เอ เล่าให้ฟังว่า ถูกนาย สอ (นามสมมุติ) โค้ชฟุตบอล ซึ่งมีอาชีพหลักเป็นข้าราชการ อายุ 43 ปี และอดีตทหารยศพันตรี ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล อายุ 64 ข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนักและถ่ายคลิปหลายครั้งที่บ้านพักและโรงแรม ระหว่างเก็บตัวฝึกซ้อม หรือเดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ
นอกจากนี้แม่ด.ช. ยังเล่าอีกว่า เด็กๆ ที่อยู่ในทีมส่วนใหญ่จะอยู่แบบไปกลับ เมื่อฝึกซ้อมเสร็จก็กลับบ้าน แต่จะมีเด็ก 4-5 คน ที่โค้ชและพันตรีผู้สนันสนุนจะคุยกับผู้ปกครองขออุปถัมป์และให้กินนอนที่บ้านโค้ช ก่อนที่ ช่วงวันที่ 30 กรกฏาคม ถึงช่วงต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา โค้ชกับผู้สนันสนุนพาเด็กๆ ไปแข่งขันที่จังหวัดบึงกาฬ โดยเปิดห้องพักที่รีสอร์ท หลังแข่งเสร็จ โค้ชพันตรีผู้สนันสนุน ก็จะเรียกเด็กไปกระทำชำเราที่ห้องพัก ห้องละ 2-3 คน โดยผลัดเปลี่ยนกันกระทำและถ่ายคลิป ซึ่งในจำนวนนั้นก็มี ด.ช. ผู้เสียหายถูกกระทำด้วย ซึ่งตลอดเวลาเด็กๆ ทุกคนไม่กล้าขัดขืนเพราะเคยข่มขู่ไว้ว่าจะไล่ออกจากทีมและไม่ให้เล่นฟุตบอลอีก ซึ่งหลังกลับจาก จังหวัดบึงกาฬ ด.ช.ผู้เสียหาย ก็ไม่ไปฝึกซ้อมและพยายามตีตัวออกห่าง กระทั่งวันที่ 25 สิงหาคม โค้ชกับพันตรีผู้สนับสนุนก็มาตามที่บ้านด.ช ที่บ้าน ยายซึ่งไม่รู้เรื่องก็ยอมให้หลานไปอยู่บ้านโค้ชอีกและด.ช.ก็ถูกกระทำเรื่อยมา จนวันที่ 6 พฤศจิกายน ด.ช.ทนไม่ไหวจึงได้ขอลาออกจากทีมและเอาเสื้อมาคืน
นางปวีณา ยังระบุอีกว่า หลังได้รับเรื่องได้ ดำเนินการนำตัวเด็กไปตรวจสอบ และพบร่องรอยการถูก กระทำการทางเพศจริง จึงได้มีการประสานมาที่ทางตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์จนนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้
ด้านพลตำรวจตรี ศารุติ ระบุว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา 6 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ,ร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร ,ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ,ร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีเพื่อการอนาจารย์และ ร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจให้เด็กกระทำอันมีลักษณะลามกอนาจาร กับผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ ทุกข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ ขณะเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบคลิปอนาจาร ที่ทั้งสองถ่ายไว้ โดยเจ้าหน้าที่จะขยายผลไปตรวจสอบว่า มีการนำคลิปไปใข้เพื่อการค้าหรือเปิดกลุ่มลับและส่งคลิปไปหรือไม่ เพราะหากมีการกระทำดังกล่าวจริง จะต้องดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เพิ่มเติมด้วย ซึ่งหากตรวจพบว่ามีการเปิดกลุ่มลับจริง ผู้ที่อยู่ภายในกลุ่มก็จะต้องถูกดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการทางคดีด้วยเช่นกัน
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ