หน้าแรก > อาชญากรรม

ปอศ.จับแก๊งโกงวงเงินบัตรเครดิตเสียหายกว่า 30 ล้าน

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 เวลา 17:29 น.


กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชาย อายุ 30 ปี กับพวกอีกรวม 11 คน ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้องทั้งนี้โดยประการที่น่าจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด เป็นธุระจัดหาโฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด” โดยจับกุมได้ในพื้นที่ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.สระบุรี และกรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา บริษัทให้บริการบัตรเครดิตแห่งหนึ่ง ได้ตรวจสอบพบการทำธุรกรรมที่น่าสงสัยของกลุ่มลูกค้าที่ได้รับอนุมัติบัตรเครดิตวงเงินไม่เกิน 25,000 บาทซึ่งได้โอนเงินสดเพิ่มวงเงินในบัตรเครดิตของตนเอง จำนวน 1.9 ล้านบาท หลังจากลูกค้าโอนเงินเข้ามาในบัตรเครดิตแล้ว ได้โทรไปขอยกเลิกรายการและขอรับเงินคืนกับคอลเซ็นเตอร์ โดยอ้างว่าโอนเงินผิด และในระหว่างที่บริษัทฯ กำลังจะคืนเงิน ลูกค้าได้นำข้อมูลบัตรเครดิตไปใช้ซื้อโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผ่านร้านค้าออนไลน์จำนวนหลายรายการ เป็นยอดสูงเกือบ 1.9 ล้านบาท

ต่อมาบริษัทฯ ได้ดำเนินการโอนเงินส่วนที่มีการขอคืนให้กับลูกค้า และจากการตรวจสอบพบว่าหลังจากลูกค้าได้รับเงินคืน ได้มีการโยกเงินออกจากบัญชีและถอนเงินสดออกจากระบบในทันที ซึ่งบริษัทตรวจสอบพบลูกค้าที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้จำนวนหลายราย ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำโดยทุจริตหลอกลวงบริษัท เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า กลุ่มผู้กระทำความผิดในคดีนี้มีลักษณะเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ ได้แก่ กลุ่มนายหน้า ชักชวนบุคคลอื่นเปิดบัญชีธนาคารและสมัครบัตรเครดิต กลุ่มคนที่หวังผลประโยชน์/เจ้าของบัตรเครดิต ที่ถูกชักชวน และกลุ่มนายทุน ที่รู้ช่องว่างและวางแผน พร้อมทั้งสนับสนุนเงินทุน ในการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิต รวม 11 คน จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มคนร้ายได้เคยทดลองระบบ โดยโอนเงินสดเพิ่มวงเงินในบัตรเครดิต จากนั้นโทรยกเลิกรายการโอน แล้วทดลองสั่งซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์จนพบช่องว่างของระบบที่สามารถนำวงเงินคงค้างไปใช้ได้ ต่อมาได้ชักชวนให้ผู้อื่นมาเปิดบัญชีและสมัครบัตรเครดิต เพื่อนำบัตรเครดิตไปใช้ซื้อโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผ่านร้านค้าออนไลน์ ประมาณ 900 กว่ารายการ ภายหลังจากได้รับสินค้าก็จะนำไปขายให้กับร้านโทรศัพท์ เป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท และนำเงินที่ได้มาแบ่งผลประโยชน์กันพร้อมของกลาง 1. บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 49 ใบ ,2. Notebook 2 เครื่อง ,3. I phone 46 เครื่อง,4. โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ,5. สมุดบัญชี 11 เล่ม, 6. สำเนาบัตรนักศึกษา 20 ใบ ,7. simcard 136 ชิ้น และ 8. I Pad 10 เครื่อง พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน 1. เงินสด 62,000 บาท ,2. สร้อยคอสีทอง 1 เส้น ,3. สร้อยข้อมือสีทอง 1 เส้น ,4. แหวนสีทอง 1 วง ,5. รถยนต์ MG สีเทา 1 คัน และ 6. รถยนต์ เบนซ์ สีขาว 1 คันนำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม