วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13:04 น.
ที่สน.ลุมพินี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เดินทางพบตำรวจ เพื่อติดตามขยายผลกรณีได้รับแจ้งว่า พบหญิงชาวจีนหน้าเหลวผิดรูป มีรอยไหม้ตามตัวอีกรายมานั่งขอทานใส่ชุดนักเรียนในย่าน สน.ลุมพินี พบว่ามักจะไปนั่งอยู่บริเวณสถานีบีทีเอสอโศกและนานา
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาที่ สน.ลุมพินี เพื่อมาตามหาหญิงชาวจีนหน้าเละ คล้ายโดนน้ำกรด นิ้วกุด ใส่ชุดนักเรียน ขณะนี้มีเป้าทั้งหมด 7 คน ถูกจับแล้ว 3 คน เหลืออีก 4 คน มีคนแจ้งมาว่าอยู่ในพื้นที่ของ สน.ลุมพินี โดย 3 วันที่ผ่านมา ตนพบว่ามีสิ่งผิดสังเกตเยอะมาก ซึ่ง 3 คนที่ถูกจับนั้น มีล่ามโผล่มาที่ สน.ทุกคน ทุกคนไม่มีพาสปอร์ตติดตัว แต่ล่ามจะเป็นคนนำพาสปอร์ตมาให้ ส่วน 3 คนไม่ให้ข้อมูลอะไรเลย จะพูดเพียงว่าสมัครใจมาทำ ทั้งนี้ ตนยังประสานกับ รองอธิบดี พม. ว่ามันดูผิดปกติ เข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ ซึ่งทั้ง 3 คน อ้างว่าสมัครใจมาทำ แต่อาจมีผู้อยู่เบื้องหลังบังคับให้คนเหล่านี้มาทำ
ทั้งนี้ นายกัน จอมพลัง ระบุว่าได้ประสาน พม. ว่ามีคนจีนเกี่ยวข้องอย่างไร และล่ามไม่ใช่ล่ามธรรมดา เพราะนั่งรถยนต์หรูมา และมีสามีชาวจีนมาด้วย
ซึ่งจากที่ตนสอบถามว่า เคยทำแบบนี้หรือไม่ ซึ่งทั้ง 3 คนอ้างว่าเคยทำได้บ้างไม่ได้บ้าง นอกจากนี้ ยังมีการมาขอเคลียร์กับตน โดยจะให้เงินทั้งหมดที่มีเพื่อแลกกับการกลับประเทศ ซึ่ง 2 คนแรก ใช้ล่ามคนเดียวกัน คนที่ 3 ใช้ล่ามอีกคน โดยทั้งหมดจะมีแพตเทิร์นเดียวกัน คือ ใส่ชุดนักเรียน มีลักษณะเดียวกันเหมือนได้มาแพตเทิร์นเดียวกัน กล่องขอเงินแบบเดียวกัน มีคนไทยมาเคลียร์ให้ ตนถามถึงเหตุผลที่มาเคลียร์ให้ขอทานชาวจีน กลับได้เหตุผลว่าเขาไปนั่งกินข้าวที่ร้านแล้วขอให้ช่วย เลยมาช่วย แต่ตนมองว่ามันฟังไม่ขึ้น
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ส่วนวันนี้ตนกังวลว่า หากเราใช้แผนการเดิม เป้าหมายอาจไหวตัวทัน จึงประสานผู้กำกับสน.ลุมพินี และดีเอสไอ หากวันนี้เราได้ตัว นำตัวเข้าดีเอสไอเพื่อขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามพบว่า มีการจ้างงานจากมาเลเซีย และไม่ใช่การเข้าไทยครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 4-5 อยู่ไทยมาประมาณ 10 วัน
กัน จอมพลัง กล่าวว่า อีกทั้งบาดแผลของทั้งสามคนยังเหมือนกัน ทุกคนนิ้วกุด ส่วนบาดแผลบนใบหน้า ที่อ้างว่าถูกน้ำกรดนั้น ตนยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะลักษณะมันไม่ใช่ ตัวเองมองว่ามันเป็นผิดปกติ ซึ่งทุกคนอ้างว่า บาดแผลทุกคนบอกถูกไฟไหม้
ตนเชื่อว่าเป็นขบวนการแน่นอนเพราะมีเล่ห์เหลี่ยม รู้ทันกฎหมาย มีพาสปอร์ต และพูดเหมือนกันว่าสมัครใจมา จากข้อมูลส่วนใหญ่อยู่ไทยเป็นระยะเวลาหลักเดือน และตนเชื่ออย่างแน่นอนว่าล่ามต้องมีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะขอทานอ้างว่านอนริมถนน เพราะเหตุใดจึงเอาพาสปอร์ตไปฝากคนอื่น ส่วนขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้แหล่งกบดานที่เรียบร้อยแล้ว