หน้าแรก > อาชญากรรม

จับอดีตแท็กซี่ ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว พบมีการใช้แอป Zello ติดต่อพูดคุยข้ามฝั่งจากไทยไปเมียนมาร์

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2023 เวลา 14:47 น.


14 พ.ย. 2566 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายภราดร  อายุ 46 ปี ​สัญชาติ ไทย​ และชาวเมียนมาร์​​​ 5 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง

1. รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา จำนวน 1 คัน
2. กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก
3. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง

โดยจับกุมได้ที่ทางหลวงหมายเลข 340 กม.89 - 90 (ขาเข้า กทม.) อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี

​พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยใช้เส้นทางต้นทางจาก ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก-อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร - อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี - แยกบ้านไร่ จ.อุทัยธานี - อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี - อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. รถวิทยุตรวจการณ์ได้ออกตรวจสังเกตุการณ์ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยพบรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีเทา ซึ่งตรงสงสัยว่าเป็นรถยนต์นำพาบุคคลต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ขับขี่มาตามถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท ทางหลวงหมายเลข 340 (ขาเข้ากรุงเทพฯ) ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านท้าย และมีลักษณะบรรทุกสิ่งของหนัก

เจ้าหน้าที่จึงได้ขับติดตามรถยนต์คันดังกล่าว และได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยได้ใช้สัญญาณเสียง รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟน เพื่อให้รถคันดังกล่าวหยุด โดยจากการตรวจสอบพบ นายภราดรฯ แสดงตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันกล่าว ภายในรถยนต์พบผู้ต้องหาที่ 2-6 และผู้ติดตาม ผู้ต้องหาที่ 6 นั่งอยู่ภายในรถบริเวณด้านหน้าและที่นั่งด้านหลัง โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารหลักฐานประจำตัว และเอกสารยืนยันตัวตนที่ราชการออกให้มาแสดง

จากการสอบคนขับ ให้การรับสารภาพว่า ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปรับบุคคลต่างด้าวที่ ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก โดยมีชายไทย ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ติดต่อพูดคุยกันผ่านแอปพลิเคชัน zello เพื่อให้เดินทางมารับผู้ต้องหาที่ 2-6 และผู้ติดตามผู้ต้องหาที่ 6 พาไปส่งปลายทางที่กรุงเทพฯ โดยเมื่อใกล้ถึงปลายทางจะมีชาย ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง โทรติดต่อมาอีกครั้ง นอกจากนี้ผู้ต้องหายังให้การยอมรับอีกว่าได้ลักลอบขนย้ายบุคคลต่างด้าวมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ ตนจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 9,000 บาท

จากการสอบถามบุคคลต่างด้าว ให้การยอมรับว่า ได้เดินทางมาจากประเทศเมียนมาร์ เข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ จ.ตาก จากนั้นได้เดินเท้าต่ออีกประมาณ 4 ชั่วโมง มาขึ้นรถยนต์กระบะที่บริเวณป่ารกชัฎ โดยในระหว่างการเดินทางจะมีการเปลี่ยนรถยนต์รับส่งเป็นช่วงๆ ซึ่งปลายทางการเดินทางจะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ทั้งนี้บุคคลต่างด้าวยังให้การยอมรับอีกว่า พวกตนจะต้องจ่ายเงินค่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เป็นจำนวนประมาณ 14,000 - 15,000 บาท โดยได้จ่ายเงินให้นายหน้าชาวเมียนมาร์ ก่อนจะออกเดินทางหลบหนีเข้าประเทศไทย

​ภายหลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม และได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติ นายภราดรฯ ผู้ต้องหาที่ 1 พบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว โดยใช้รถแท็กซี่ในการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ซึ่งภายหลังจากถูกจับกุมดำเนินคดีและถูกยึดรถแท๊กซี่คันก่อเหตุแล้ว ผู้ต้องหาก็ได้กลับมาก่อเหตุในลักษณะเช่นเดิมอีก และสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

ข่าวยอดนิยม