วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 เวลา 16:24 น.
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 10.30 น. ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ชัยภัทร วิลาศรี พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ได้เรียกตัว นายกฤษฎา อายุ 19 ปี ที่อยู่ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และนายนนทวัฒน์ อายุ 21 ปี ที่อยู่ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แอดมินเพจ “เดี๋ยว บอก” ที่โพสต์ข้อความชักชวนนัดหมายรวมกลุ่มกันแข่งรถในทางสาธารณะในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลายครั้ง มารับทราบข้อกล่าวหา "ชักชวนให้มีการแข่งรถ โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 10,000 บาทถึง 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ" และสอบปากคำไว้ โดยผู้ทั้งสองคนรับทราบข้อกล่าวหา และให้การสารภาพตลอดข้อกล่าว จากนั้นจึงจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า หลังจากมีการร้องเรียนเรื่องกลุ่มวัยรุ่นมีการจับกลุ่มชักชวนกันผ่านทางโซเชียล ทาง สภ.บางบัวทอง ได้ทำการสืบหาข่าวและส่งสายลับเข้าไปปะปนในกลุ่มจนได้หลักฐานเป็นคลิปเหตุการณ์ตามสถานที่ต่างๆ และสามารถรวบรวมหลักฐานได้และนำไปสู่การจับกุมในครั้งนี้ ซึ่งได้กำชับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี และงานฝ่ายจราจรให้ดำเนินการโดยเคร่งครัด รวมทั้งประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ต้องหาทราบและเข้าใจดีในพฤติการณ์ และข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น ไม่ให้ก่อเหตุดังกล่าวอีก
ต่อมา พ.ต.อ.ปรารถนา แผ่นผา รรท.ผบก.ภจว.นนทบุรี ได้เดินทางมาสอบสวนและรับทราบข้อมูลต่างๆจาก นายกฤษฎา และนายนนทวัฒน์ ด้วยตนเองและได้กำชับพนักงานสอบสวน ให้เร่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
พ.ต.อ.ปรารถนา แผ่นผา รรท.ผบก.ภจว.นนทบุรี กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้จะเป็นผลดีที่สุดสำหรับประชาชน เพราะพวกแอดมินเพจต่างๆจะนัดรวมตัวเป็นการชักชวนกันมาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน แล้วอีกอย่างเมื่อมาเกิดประสบอุบัติเหตุแล้วพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ทราบหรอกว่าเด็กพวกนี้ออกมาทำอะไรกัน แล้วเมื่อรวมตัวกันก็จะทำให้เกิดอาชญากรรมในรูปแบบอื่นๆอีกเยอะ เพราะเด็กพวกนี้อยู่ในวัยคึกคะนอง เมื่อคนหนึ่งชวนอีกคนก็แห่ตามกันไป ไปฟันไปแทงไปยิงเขา ต่างๆนี้ ผมเชื่อว่าพ่อแม่ผู้ปกครองเขาไม่ทราบ เขาจะทราบก็เมื่อประสบอุบัติเหตุแล้วก็จะมาทราบว่าลูกเราไปทำนู่นทำนี่ ซึ่งมันสายไปแล้ว
พ.ต.อ.ปรารถนา กล่าวว่า ตอนนี้กับเนื้อกับตัวกับใจดีที่สุดแล้ว การที่มาให้ข้อมูลกับตำรวจ ด้วยการมามอบตัว ก็ฝากถึงทุกๆคนที่คิดจะทำแบบนี้ มันสร้างเวรสร้างกรรมให้กับคนอื่น ผู้ใช้รถใช้ถนนที่บริสุทธิ์เขาก็จะเดือดร้อนไปด้วย และขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่มีเบาะแสและสามารถชี้ได้ว่าตรงไหนมีพฤติกรรมแบบนี้ มาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จนสามารถจับกุมได้ ตำรวจจะมอบเงินรางวัลให้ 3,000 บาท กับผู้ที่ทำความดี
นายกฤษฏา และ นายนนทวัฒน์ ร่วมกันกล่าวว่า ตอนที่ชักชวนในเพจคนออกมากันไม่เยอะมาขี่รถเล่นบนถนนเส้นกาญจนาภิเษก และไม่เคยมีเรื่องทำร้ายร่างกายฟันกับใคร จะออกมาขี่รถเล่นกันตอนดึกๆ ซึ่งจากนี้จะเลิกเป็นแอดมินชักชวนเพื่อนๆแล้ว อยากจะฝากถึงคนที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ว่ากฎหมายเขาเอาจริง เก่งแค่ไหนเขาก็ตามได้หมด อยากฝากถึงคนที่ทำอยู่ขอให้เลิกซะ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งว่า มีเหตุชักชวนให้มีการรวมกลุ่มกันเพื่อแข่งรถในทางสาธารณะ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ จึงได้มอบหมาย ให้ ร.ต.อ.กษิดิษ มอญขาม รอง สว.จร.สภ.บางบัวทอง สืบสวนซึ่งจากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า การรวมกลุ่มฯ ในแต่ละครั้งมีการนัดหมายผ่านเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “เดี๋ยว’ บอก.” ซึ่งเฟซบุ๊กดังกล่าวได้มีการโพสต์นัดหมายหลายครั้งดังนี้ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 17.00 น. มีการโพสต์ข้อความชักชวนนัดหมายรวมกลุ่มกัน แข่งรถในทางสาธารณะด้วยข้อความว่า “คืนนี้ถ้าฟ้าฝนเป็นใจ เฉพาะกิจ2+4วาล์ว ฝูงบิน300 500เอาออกมาได้เลยจั๊ฟ #เดี๋ยว’ บอก.#ขอแค่ฝนไม่ตกอย่างเดียวพอ” และต่อมาเวลาหลังเที่ยงคืนของวันที่ 18 ตุลาคม 2566 พบการรวมกลุ่มแข่งรถในทางฯ ตามข้อความโพสต์ชักชวน รวมกลุ่มขับขี่มาด้วยความเร็วผ่านเข้ามาในพื้นที่บริเวณศูนย์ซ่อมรถไฟฟ้า คลองบางไผ่ (BTS บางไผ่) ถนนกาญจนาภิเษก และบริเวณถนน 345
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 15.13 น. มีการโพสต์ข้อความชักชวนนัดหมายรวมกลุ่มกัน แข่งรถในทางสาธารณะด้วยข้อความว่า “พาลูกเมียไปดูไฟเสร็จออกจากในเมือง ค่อยพบกัน 2 + 4 วาว Xmax Froz, แรงๆเอาออกมาหน่อย #เดี๋ยวบอกอีกทีตามนี้ #เดี๋ยว ‘บอก. & #รู้จกแล้วจะรักเอง” และต่อมาเวลาประมาณ 22.45 น. มีการโพสต์ข้อความชักชวนนัดรวมกลุ่มกันแข่งรถในทางสาธารณะด้วยข้อความว่า “ออกจากเมืองแล้วพบกัน โล 2 + 2 #เดี๋ยว’ บอก. #รู้จักแล้วจะรักเอง (ไหลมั่วยก)”
จึงได้ทำการสืบสวนแล้วทราบว่า แอดมินเพจเฟซบุ๊กชื่อ “เดี๋ยว ‘บอก.” มีผู้ดูแลเพจอยู่ คือ นายกฤษฎา และนายนนทวัฒน์ และพบว่ามีการนำ รถจักรยานยนต์มารวมกลุ่มกันแข่งรถในทางฯ ด้วย