หน้าแรก > สังคม

ผู้ว่านนท์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอลและครอบครัว

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2023 เวลา 14:39 น.


เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยกาชาดจังหวัดนนทบุรี และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และแพทย์ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ ครอบครัวแรงงานไทย ที่ใด้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในประเทศอิสราเอล จำนวน 2 ครอบครัว ประกอบด้วยครอบครัว นายพล บุญเรือง อยู่บ้านเลขที่ 491 หมู่ 4 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งได้เดินทางกลับมาประเทศไทยแล้ว และครอบครัวที่ 2 นายประณพ ชัยธรรมโชค อยู่บ้านเลขที่ 91/59 หมู่ 14 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ที่ยังทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอล โดยผู้ว่าได้พบปะพูดคุยกับแรงงานที่เดินทางกลับมาและครอบครัวพร้อมทั้งมอบสิ่งของต่างๆให้

นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า วันนี้ทีมจังหวัดนนทบุรีภายใต้การประสานงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี สาธารณสุขจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ออกมาเยี่ยมครอบครัวที่มีแรงงานคนในครอบครัวไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล โดยวันนี้ไป 2 ครอบครัว ครอบครัวแรกได้ตัดสินใจเดินทางกลับมาประเทศไทยแล้ว สิ่งที่เขากังวลคือเรื่องของเงินที่ใช้จ่ายตอนเดินทางไป กังวลเรื่องหนี้สินแต่เมื่อเราได้อธิบายให้เขาเห็นว่าทางภาคราชการ ไม่ว่าจะเป็นทางแรงงานทางพัฒนาสังคมทั้งหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยก็ได้ร่วมกันที่จะส่งเสริมอาชีพเขาเพื่อหารายได้ให้เขาในช่วงที่เขากลับมาก็สร้างความมั่นใจให้เขา

นายสุธี กล่าวว่า ส่วนอีกครอบครัวหนึ่งเป็นครอบครัวที่เป็นกุ๊กอยู่ในเมืองหลวงของอิสราเอล เขาบอกว่าเขายังอยู่ เพราะตอนนี้ภาคการเกษตรที่อพยพมาที่ศูนย์อยู่ระหว่างการเดินทางก็เยอะ เขาก็เลยยังไม่แจ้งว่าจะกลับ เขาจะรอดูสถานการณ์ และในร้านอาหารแห่งนี้ที่เขาทำอยู่มีคนไทยทำอยู่ 20 กว่าคน ทุกคนก็ยังไม่กลับเนื่องจากอยู่ในเมืองหลวงเทลอาวีฟ แต่หากเกิดสถานการณ์เขาก็พร้อมที่จะกลับ

นายกำพล อายุ 35  ปี แรงงานด้านการเกษตรทำอยู่ฟาร์มไก่ ในประเทศอิสราเอลที่เดินทางกลับมาแล้ว กล่าวว่า เดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยทำงานอยู่ในเมืองอาลูนิม ก็ได้ยินเสียงยิงกันทุกวัน ทั้งตอนกลางวันและตอนนอน ก็มีกระสุนตกบริเวณใกล้ที่ทำงานบ้าง 2-3 ครั้ง แต่ไม่มีใครเป็นอะไร ในฟาร์มไก่ที่ผมทำงานมีคนไทยทำงานกันอยู่ 3 คน ส่วนด้านข้างเป็นป่าอะโวคาโด แล้วฟาร์มวัว ส่วนฟาร์มไก่ในละแวกเดียวกันมี 3 ฟาร์ม มีคนไทยอยู่รวมกันประมาณ 8-9 คน ไม่ได้กลับมาทั้งหมดบางคนเขายังเลือกที่จะทำงานอยู่

นายกำพล กล่าวว่า ขณะที่มีการระเบิดถ่ายภาพไม่ทันแต่ถ่ายกลุ่มควันที่หลงเหลืออยู่บนอากาศไว้ได้ เพราะไอรอนโดนสกัดได้ แต่บางลูกก็หลุดรอดมาตกในเมืองข้างๆก็มี แต่ที่ผมอยู่ไม่มีหากสกัดพลาดก็อาจจะมาถึงเพราะอยู่บนหัว

นายกำพล กล่าวอีกว่า สัญญาการทำงานของผม 5 ปี 3 เดือน ไปทำงานได้แล้ว 7 เดือน ยังใช้หนี้ไม่หมด แต่บางส่วนที่เดินทางไปก็เป็นทุนของตัวเอง ส่วนที่รัฐบาลออกนโยบายให้กู้ดอกเบี้ยร้อยละบาทก็น่าสนใจน่าคิดอยู่ หากเหตุการณ์ในประเทศอิสราเอลสงบ แต่ถ้าในประเทศไทยมีงานอะไรที่มั่นคงกว่าก็จะไม่กลับไปแล้ว จะทำงานอยู่ที่ประเทศไทย ส่วนวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมาเยี่ยมเยือนก็ดีใจที่เขายังเป็นห่วงไม่ทอดทิ้ง

ด้าน นางศรีเสาวลักษณ์ อายุ 54 ปี แม่ของนายประณพ ชัยธรรมโชค อายุ 32 ปี กุ๊กร้านอาหารในเมืองหลวงเทลอาวีฟ ที่ยังทำงานอยู่ กล่าวว่า ลูกชายได้ไปทำงานเป็นกุ๊กได้ 1 ปี 7 เดือนแล้ว จากสัญญา 5 ปี 3 เดือน ลูกชายบอกว่าตอนนี้ใช้ชีวิตปกติ ก็ให้เขาประเมินสถานการณ์ด้วยตนเอง ว่าเขาสมควรที่จะกลับบ้านตอนนี้หรือรอก่อน แต่เขาบอกว่าเพื่อนๆที่เสี่ยงยังอยู่ในศูนย์อพยพเยอะยังกลับกันไม่หมด โดยรัฐบาลไทยส่งเครื่องบินไปรับทุกวัน ก็มีคนทยอยรอเดินทางกลับกันอยู่

นางศรีเสาวลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนสามีตนคือนายชินดนัย ชัยธรรมโชค อายุ 53  ปี ก็ทำงานเป็นกุ๊กที่ร้านอาหารไทยในซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอย่างนี้ก็รับเงินเยอะเลยสิ นางศรีเสาวลักษณ์ กล่าวว่า ก็ไม่เยอะค่าใช้จ่ายก็เยอะอยู่ ลูกคนเล็กก็ยังเรียนหนังสือ และตัวเองพร้อมสามีก็เคยไปทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอลอยู่ 10 กว่าปี โดยแฟนไปทำงานเป็นกุ๊กส่วนตัวเองเป็นแม่บ้าน ลูกชายคนเล็กก็เกิดที่ประเทศอิสราเอล ก็เลยรู้ภูมิประเทศของเขา และหากเกิดความรุนแรงก็บอกให้ลูกกลับมาเลย แต่ถ้าหากเขาปิดน่านฟ้ากลับไม่ได้ ทางอิสราเอลเขาน่าจะมีแผนอพยพประชาชน และเขาก็ต้องดูแลเราด้วยเพราะเราไปถูกกฎหมายเสียภาษี เขาก็ต้องดูแลทุกคนในประเทศเขา

นางศรีเสาวลักษณ์ กล่าวว่า เมื่อถามว่าอยากให้กลับไหม แม่ก็ต้องอยากให้ลูกกลับอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ลูกเขาบอกว่าอยู่ได้เพราะเพื่อนๆในร้านก็ยังไม่มีใครกลับเลย ยังทำงานกันทุกวัน แต่ก็เป็นห่วงเพราะเกิดระเบิดเป็นห่วงอยู่ แต่ถ้าถามว่าจะให้กลับ อันนี้ต้องให้เขาประมาณสถานการณ์เอาเอง

"วันนี้ผู้ว่าและหน่วยงานต่างๆมาช่วยเหลือเยอะเอาของเอาอะไรมาให้มาให้กำลังใจ มีทั้งแรงงานกาชาดสาธารณสุขพัฒนาการหมอ ส่วนลูกชายที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล กู้เงินแม่ไปพร้อมกับหัวเราะ"

นางศรีเสาวลักษณ์ กล่าวอีกว่า ลูกชายได้ส่งคลิปเหตุการณ์ระเบิดในประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่เมืองมารากัน เมืองที่อยู่ติดกับเทลอาวีฟ เป็นระเบิดลูกแรกที่หลงเข้ามาใกล้เทลอาวิฟที่สุดตั้งแต่เกิดเหตุมาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม เป็นระเบิดที่ทางปาเลสไตน์ยิงมา ซึ่งน่าจะหลงมาแต่ไม่มีใครเป็นอันตราย มีแต่ตึกพังลูกชายเลยส่งคลิปมาให้ดูว่าติดเขตกันเลย ก็เลยถามลูกว่ากลัวไหม ถ้ากลัวก็ให้กลับมาลูกบอกว่ายังอยู่ได้เพราะไซเลนส์มาลูกก็ลงไปอยู่ใต้ตึก ก็มีเสียงไซเรนดดังทุกวัน

ทั้งนี้ นางศรีเสาวลักษณ์ ได้วีโอคอลคุยกับนายชินดนัย สามีที่ทำงานอยู่อเมริกา และส่งโทรศัพท์ให้คุยกับนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีด้วย โดยนายสุธี ได้ถามนายชินดนัย ว่าได้ติดต่อกับลูกบ้างไหม ซึ่งนายชินดนัย กล่าวว่า คุยกับลูกทุกวัน เขาปลอดภัยดี นายสุธี จึงแจ้งว่าวันนี้พาหลายหน่วยราชการมาเยี่ยมครอบครัว เอาของมาให้ ทางจังหวัดนนทบุรีไม่ต้องห่วง ห่วงแต่ทางอิสราเอล นายชินดนัย จึงกล่าวว่า ลูกชายเขาอยู่ได้ก็อยู่ไปก่อนเพราะเห็นใจนายจ้างเขา ถ้าลูกจ้างกลับกันหมด เขาเปิดได้เขาก็ยังเปิดแต่ถ้าเปิดไม่ได้เขาก็ต้องปิด แต่ถ้าหากอิสราเอลประกาศฉุกเฉินร้ายแรงผมก็จะให้ลูกเดินทางกลับ

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม