หน้าแรก > อาชญากรรม

สืบนครบาล รวบ "น้ำสรรพยา" สาวแสบเนียนตีสนิทกับร้าน ก่อนโชว์สลิปปลอมซื้อมือถือราคาเกือบครึ่งแสน

วันที่ 27 ตุลาคม 2566 เวลา 04:43 น.


สืบนครบาล รวบ "น้ำสรรพยา" สาวแสบเนียนตีสนิทกับร้าน ก่อนโชว์สลิปปลอมซื้อมือถือราคาเกือบครึ่งแสน

26 ต.ค.66 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. เร่งรัดให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัว น.ส.ธนาพร หรือ น้ำ สรรพยา ซึ่งมีพฤติการณ์  ที่เข้ามาใช้อุบายทำตัวตีสนิทกับพนักงานเพื่อขอซื้อโทรศัพท์มือถือภายในร้าน ก่อนที่จะทำการโชว์สลิปการโอนเงินปลอมและนำโทรศัพท์มือถือมูลค่าหลายหมื่นบาทหลบหนีไป และยังเคยก่อเหตุในหลายพื้นที่ทั้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดชัยนาท

จากการตรวจสอบประวัติในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า ปัจจุบัน น.ส.ธนาพร เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี จำนวน 3 หมายจับ ดังนี้

1.หมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะ ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น” (หนีประกันศาล)

2.หมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ 19 กันยายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และ

3.หมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ลักทรัพย์ โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่นมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้"

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 เจ้าหน้าที่ได้แกะรอยผู้ตัองหา จนสืบทราบว่าผู้ต้องหา ได้ไปหลบซ่อนตัวเช่าคอนโด แถว ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุม น.ส.ธนาพร หรือน้ำ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะ ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น” (หนีประกันศาล) โดยจับกุมได้ที่หน้าคอนโด นวนคร-ตลาดไท ถนนเทพกุญชร42 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบจากประชาชน ที่มีการร้องทุกข์อันเกิดความเสียหาย จาก น.ส.ธนาพร หรือ น้ำ  มีการก่อเหตุในท้องที่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท โดยเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 วันที่เกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้เข้ามาภายในร้านเพื่อทำการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ พนักงานขายได้ให้ผู้ก่อเหตุเลือกว่าจะซื้อเป็นเงินสด หรือเงินผ่อน ผู้ก่อเหตุได้แจ้งว่าซื้อเป็นเงินสด ก่อนที่จะหยิบเครื่องมาทำการแกะให้ผู้ก่อเหตุดู

จากนั้นผู้ก่อเหตุได้สอบถามว่าจะให้ทำการโอนเงินผ่านคิวอาร์โค้ดอันไหน และแจ้งกับพนักงานว่าว่าขอถ่ายรูปเอาไว้ เพื่อจะส่งให้แฟนเพราะแฟนจะเป็นคนโอนค่าโทรศัพท์มือถือให้ และผู้ก่อเหตุยังได้ขอกระดาษเปล่า 1 แผ่น พร้อมออกอุบายว่าซ้อมลายเซ็น ที่จะทำเป็นสลิปปลอมให้ตายใจ ว่าผู้ก่อเหตุชื่อนี้จริง จากนั้นผู้ก่อเหตุได้แจ้งพนักงานว่า แฟนได้โอนเงินให้ทางร้านแล้ว ตนจึงได้ทำการถ่ายรูปหลักฐานการโอนเงินเอาไว้ ซึ่งระหว่างที่พนักงานกำลังจะดูหลักฐานการโอนเงิน ผู้ก่อเหตุได้ชักชวนคุยเรื่องของการบริการทางร้าน เมื่อจบการสนทนาก็ได้นำเครื่องโทรศัพท์มือถือออกจากร้านไป ซึ่งภายหลังไม่เกิน 5 นาที พนักงานเองตรวจสอบพบว่าสลิปที่หญิงสาวผู้ก่อเหตุโอนเงินให้นั้นผิดปกติ จึงได้โทรศัพท์หาเจ้าของร้านเพื่อสอบถามว่ามียอดเงินเข้าหรือไม่ ทางเจ้าของร้านก็ได้แจ้งว่าไม่มียอดเงินโอนเข้ามา จนเมื่อผู้จัดการร้านกลับมาถึงที่ร้านและได้ทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งก็พบว่าไม่มียอดเงินโอนเข้าจริง จึงวิ่งออกไปตามหาหญิงสาวรายดังกล่าวแต่ก็ไม่พบ

สำหรับโทรศัพท์มือถือที่ผู้ก่อเหตุได้ไป เป็น samsung galaxy s23 ultra พร้อมอุปกรณ์ชาร์จของแท้ รวมมูลค่า ประมาณ 45,180 บาท ส่วนกลอุบายของหญิงสาวรายนี้ก็จะทำทีพูดคุยและทำตัวตีสนิทกับพนักงาน จนทำให้ตายใจ เบื้องต้นทางเจ้าของร้านได้ไปทำการแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยนาท จนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่า ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพ ตกงานในช่วงโควิด ส่วนการก่อเหตุ คือ ก่อนลงมือก่อเหตุ จะเดินทางไปดูร้านโทรศัพท์ บ้านพักอาศัย หรือเป้าหมายที่ตนจะประสงค์ต่อทรัพย์ และจะทำการศึกษาข้อมูลก่อนว่า ร้านค้า บ้านพัก หรือ เป้าหมายนั้นๆมีคนพักอาศัย หรือประจำร้านสาขานั้นมีพนักงานประจำกี่คน ต่อมาจะศึกษาเส้นทางการเดินทางเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการหลบหนี และที่สำคัญต้องดูว่า "เป้าหมายใช้บัญชีอะไร ชื่ออะไร เลขบัญชีอะไร" เพื่อทำการวางแผนก่อนการเอาทรัพย์นั้นๆ ซึ่งผู้ต้องหา ยังให้การเพิ่มเติมว่า ตนจะปลอมแปลงสลิปโอนเงินออนไลน์ล่วงหน้าก่อนก่อเหตุ หากเป็นลักทรัพย์ จะวางแผนสวมใส่เสื้อผ้าอำพรางตัว เมื่อถึงห้วงเวลาในการก่อเหตุ จะหลอกล่อพูดคุยกับผู้เสียหายให้ตายใจ เพื่อไม่ให้มีเวลาในการตรวจสอบสลิปโอนเงิน และไม่น่าสงสัยต่อแผนประทุษกรรม หรือหากลักทรัพย์สินค้านั้นๆ ก็จะรีบทำการหลบหนี เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายจับได้ทันเวลา และแฝงตัวในที่พักอาศัยย่านชุมชนที่มีคนหนาแน่น เพื่อยากต่อการสืบหาจับกุม

ตนเองก่อเหตุแบบนี้ต่อเนื่องมา ตั้งแต่ปี 2565-2566 เมื่อได้ของมาแล้ว ก็จะทำการโพสต์ขายบนโซเชียล หรือไปฝากขายยังหน้าร้านรับจำนำ รับซื้อขายฝาก โดยขายหรือจำนำทันทีหลังก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา สืบนครบาล

ข่าวยอดนิยม