วันที่ 12 ตุลาคม 2566 เวลา 15:57 น.
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุม นายพงษ์เพชร อายุ 42 ปี (ผู้ขับขี่) สัญชาติ ไทย พร้อมชาวต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ อีก 9 คน โดยจับกุมได้เส้นทาง ถนนมิตรภาพ (ทล.2) ขาขึ้น ตรงข้ามร้านอาหารเทพประทาน ระหว่างกิโลเมตรที่ 30-31 อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี พร้อมของกลาง รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา จำนวน 1 คัน
โดยการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่ได้สำรวจเส้นทาง บริเวณ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพบรถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา โดยมีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.27 ถนนสายเอเชีย ทล.32 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว เบื้องต้นสอบถามชื่อ นายพงษ์เพชรฯ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา โดยมีผู้ถูกจับที่ 2 - 10 นั่งโดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงเอเชีย จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า ผู้ถูกจับที่ 2 - 10 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว
จากการสอบสวนคนขับ ให้การยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ประสานงานให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่บริเวณ ป่าข้างทาง พื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 9 คน เพื่อไปส่งพื้นที่ชั้นในยังไม่ทราบปลายทางโดยได้รับค่าจ้าง 1,000 บาท/คน ผู้ถูกจับที่ 1 รับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว บรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 9 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยตนนั้นได้กระทำแบบนี้มาเป็นครั้งแรกและสอบถามผู้ถูกจับที่ 2 – 10 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เมื่อถึงปลายทาง จะมีญาติของผู้ต้องหา เป็นคนจ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ในราคาประมาณ 12,000 บาท