ตำรวจทางหลวงสกัดจับรถขนต่างด้าว สารภาพทำมาแล้ว 5-6 ครั้ง

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการทางหลวง (บก.ทล.)  ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) ร่วมกันสกัดจับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียนจังหวัดกำแพงเพชร คุมตัวนายป๋อ อายุ 34 ปี คนขับพร้อมต่างด้าวชาวเมียนมา 10 คน ซุกซ่อนภายในรถคันดังกล่าว จับกุมได้ที่ ถนนปทุมธานี-บางปะหัน ทล.347 กม.42-43 ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง บริเวณ อ.พระนครศรีอยุธยา 
จ.พระนครศรีอยุธยา ได้สั่งเกตเห็นรถยนต์ ยี่ห้อยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียนจังหวัดกำแพงเพชรที่ขับขี่อยู่ มีน้ำหนักรถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกรถคันดังกล่าวให้หยุดเพื่อตรวจค้น แต่คนขับกลับพยายามเร่งเครื่องขับหลบหนี จนกระทั่งมาถึง บริเวณ ถนนปทุมธานี-บางปะหัน ทล.347 กม.42-43 ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงสามารถบังคับรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเข้าทำการตรวจสอบ พบนายป๋อฯ อายุ 34 ปี เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ โดยมีต่างด้าวชาวเมียนมา 10 คน โดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงเอเชีย จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดมาแสดง

จากการสอบสวนนายป๋อฯ ให้การรับสารภาพว่าได้รับการประสานงานจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวที่บริเวณ ป่าข้างทาง พื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 10 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้รับค่าจ้าง 20,000 บาท/ครั้ง โดยทำมาแล้ว 5 – 6 ครั้ง และก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2566 ตนนั้นได้ขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Mitsubishi สีดำ ป้ายทะเบียนจังหวัดชลบุรี บรรทุกแรงงานต่างด้าว 10 คน ขับขี่ผ่านมาที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสุพรรณบุรี เรียกตรวจสอบจากนั้น ได้ขับขี่หลบหนีด้วยความเร็วจนไปถึงทุ่งนา และไม่สามารถไปต่อได้จนต้องทิ้งรถแล้วหนี

สอบสวนผู้ต้องหาต่างด้าว ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การรับสารภาพว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถ เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เมื่อถึงปลายทาง จะมีญาติของผู้ต้องหา เป็นคนจ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ในราคาประมาณ 8,000 – 15,000 บาท โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป