วันที่ 15 สิงหาคม 2566  นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน แสดงความเห็นกรณี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์รูปภาพและคลิปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่า เขาข่ายมีความผิดตามมาตรา 32 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า กรณีนี้มีการเสนอข่าวและท้วงติงอย่างมากมาย ขณะที่นายประดิพัทธ์ระบุว่าการกระทำดังกล่าว ต้องการสื่อให้เห็นถึงความด้อยของกฎหมายฉบับนี้ จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านายประดิพัทธ์ รู้อยู่แล้วว่า การโพสต์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านโซเชียลมีเดียมีมีกฎหมายควบคุมดูแลอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเข้าข่ายองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย อาญามาตรา 59 ในเรื่องของเจตนาเล็งเห็นผล  อีกทั้งสำนักนายกรัฐมนตรีก็ได้ออกข้อห้ามในการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ออกมารองรับตามมาตรา 32 เช่นกัน

"เรื่องนี้ชัดเจน จะมาปฏิเสธ นู่น นี่ นั่นไม่ได้เพราะมีโทษค่อนข้างแรง อัตราโทษปรับตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท และที่สำคัญมีโทษทางอาญา หมออ๋องต้องยอมรับสภาพในเรื่องนี้ ซึ่งเรื่องนี้องค์กรรักชาติรักแผ่นดินไม่ยอม” นายศรีสุวรรณ กล่าว

ส่วนเรื่องประเด็นจริยธรรมนั้น เป็นหน้าที่ของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ดำเนินการตามข้อบังคับประมวลจริยธรรมส.ส.และกรรมาธิการ ซึ่งเรื่องนี้สร้างความเสื่อมเสียต่อท่านอย่างมาก โดยในวันนี้ได้ยื่นเรื่องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ดำเนินการตรวจสอบจริยธรรม และภายในวันสองวันนี้ ตนก็จะไปยื่นป.ป.ช.ให้ดำเนินการตรวจสอบจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพร้อมระบุว่าหากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำผิดกฎหมาย โดยชัดเจนอยู่แล้วคือการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 53 ซึ่งอย่างนี้ไม่พลาดนำไปสู่การกระเด็นออกจากตำแหน่ง

 
นายศรีสุวรรณยอมรับว่ากระบวนการตรวจสอบจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎรอาจจะเป็นไปด้วยความล่าช้าและโทษก็ไม่ค่อยรุนแรง อาจจะแค่ว่ากล่าวตักเตือนแต่โทษที่น่าจะรุนแรงและหนักที่สุดคือมาตรฐานจริยธรรมที่ดำเนินการตรวจสอบโดย ป ป ช.ที่ทำให้ สส. หลายคนหลุดจากตำแหน่ง ตั้งแต่นางสาวปารีณาไกรคุปต์ หรือ สส.พรรคภูมิใจไทยกรณีเสียบบัตรแทนกัน โดยตนได้ยื่นร่องเรียนในเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องจริยธรรมที่ ป.ป.ช.เล่นงานนักการเมืองในช่วงที่ผ่าน 

ทั้งนี้ เวลา 13:00 น ตนจะไปร้องต่อคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวนเอาผิดตามกฎหมายต่อไปด้วย