จากเหตุระเบิดคาร์บอมรถยนต์เก๋งใกล้บริเวณจุดตรวจอรกานต์ ที่เป็นฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เมื่อเวลา 20.05 น.วันที่ 5 สิงหาคม 2566 ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นคนร้าย ประกอบด้วย ผู้ที่ขับรถยนต์ จำนวน 1 คน ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ จำนวน 1 คัน และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาด้านหลังโดยมีผู้นั่งซ้อนท้ายมาด้วย โดยแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ได้ขับรถผ่านจุดตัดรถไฟแล้วเปิดไฟเลี้ยวซ้ายจอดแช่อยู่กลางถนนทำทีว่ารถเสีย

จากนั้นจึงมีรถจักรยานยนต์ตามมาประกบ แล้วผู้ขับรถยนต์ได้เปิดประตูรถออกมาแล้วซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไปเส้นทางเลี่ยงเมืองสุไหงโก-ลก โดยก่อนหลบหนีออกไปได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ป้อมตำรวจหวังล่อให้ออกมาจากที่ตั้งก่อนการจุดระเบิดด้วยนาฬิกาดิจิทัล จากการตรวจสอบไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้

ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางเข้าออกทั้ง 4 ด้าน เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดEOD และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในวันที่ 6 สิงหาคม 2566 โดยมีการยิงทำลายถังแก๊สปิคนิคที่พบในบริเวณดังกล่าวจำนวน 1 ถัง จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบซากรถยนต์ที่แหลกละเอียด ภายในรถพบเศษชิ้นส่วนถังแก๊สปิคนิค 1 ถัง และพบอีก 1 ถังที่ประกอบระเบิดไว้แต่ไม่ทำงานและเจ้าหน้าที่ EOD ได้ยิงทำลายไปแล้ว  

สำหรับความคืบหน้าการติดตามคนร้าย ได้มีการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากหลายจุดที่อยู่บริเวณโดยรอบพิกัดในรัศมีเส้นทางสายหลักสายรองรอบจุดเกิดเหตุ เนื่องจากตรวจพบว่าคนร้ายใช้เส้นทางจากชุมชนซูรอกูเวาะ ออกมาจากซอยโซเฟียการยาง จากนั้นผู้ขับรถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์  1 คัน ได้ขับรถยูเทิร์นจากสี่แยกบุญลาภฯ เพื่อเข้ามาตรงจุดเกิดเหตุ ส่วนรถจักรยานยนต์อีก 1 คันที่มีผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายได้ตามมาประกบ เมื่อได้จังหวะรถจักรยานยนต์คันแรกรับผู้ขับรถยนต์ออกไปจากจุดเกิดเหตุทางเลี่ยงเมืองเลี้ยวซ้ายผ่านถนนสายรองไปทางสุไหงปาดี รถที่ตามมาได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ป้อมตำรวจหวังให้เจ้าหน้าที่ออกมาในช่วงที่ระเบิดทำงาน

จากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ยังเช็คข้อมูลเลขแผ่นป้ายทะเบียนและเลขคัสซีของรถยนต์ที่ประกอบระเบิด ปรากฎว่าข้อมูลถูกต้องตรงกัน มีการจ่ายภาษีป้ายถูกต้อง ไม่มีการแจ้งหาย หรือมีประวัติการก่ออาชญากรรม โดยชื่อผู้ครอบครองรถอยู่ที่อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ทั้งนี้ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นาทวี ไปตรวจสอบจากเจ้าของรถว่าได้นำรถไปจำหน่ายให้กับผู้ใดไว้หรือไม่ เพื่อสืบสวนขยายผลติดตามตัวคนร้ายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาได้เร่งรัดให้ติดตามความคืบหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งเบื้องต้นได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนร้ายที่อยู่ในพื้นที่อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอแว้งที่มีประวัติการลักลอบเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่

ขณะที่นายประชานิวัฒน์ บัวศรี หัวหน้างาน 2 ศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเจ้าหน้าที่รถไฟ สถานีรถไฟสุไหงโก-ลกได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณจุดตัดรถไฟ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของการเดินรถและรับมอบพื้นที่จากหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงเพื่อดำเนินการซ่อมบำรุงทางและเปิดเดินรถต่อไป ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อเวลา 13.47 น.ขบวนรถเร็วสุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯได้เปิดเดินรถตามปกติ เช่นเดียวกับรถด่วนสุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ และรถไฟขบวนท้องถิ่น ต้นทางทาง-ปลายทางสุไหงโก-ลกพร้อมให้บริการตามปกติในทุกขบวนตั้งแต่เวลานี้

ที่มา สวท.สุไหงโก-ลก