หน้าแรก > อาชญากรรม

ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลปิด 5 คดีสำคัญ กวาดล้างต่างชาติผิดกฎหมาย

วันที่ 7 กรกฎาคม 2023 เวลา 03:11 น.


ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลปิด 5 คดีสำคัญ กวาดล้างต่างชาติผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.66 ณ ห้องทรายมณี ชั้น 2 โรงแรมลองบีช การ์เด้น โฮเต็ล แอนด์ สปา พัทยาเหนือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม. พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จ.ชลบุรี พร้อมกับ ตำรวจชุดสืบสวน สตม. ร่วมกันแถลงผลการกวาดล้างจับกุม ชาวต่างชาติในคดีสำคัญ จำนวน 5 คดี

โดยคดีแรก ทำการจับกุม นายโจโนธาน อายุ 31 ปี ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ตามหมายจับเลขที่ B-18-2612 ลงวันที่ 28 ก.ย.61 ขององค์การตำรวจสากลได้ออกประกาศสีแดง (INTERPOL Red Notice) ในความผิดฐานค้ายาเสพติดอย่างร้ายแรง โดยสามารถจับกุมได้ที่ ด่านตรวจฝั่งขาออกประเทศไทย ภายในท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ระหว่างเตรียมหลบหนีไปยังประเทศเวียดนาม โดยนายโจนาธาน ถือเป็น ผู้ร้ายข้ามแดน คนสำคัญ เนื่องจาก ในช่วงปลายปี พ.ศ.2559 ได้ลักลอบนำยาบ้ากว่า 2,000 เม็ด โดยซื้อมาจาก ชายชาวแอฟริกาผิวสี ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จากนั้นลักลอบส่งไปขายให้กับลูกค้าหลายรายในเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์  ต่อมา สมาพันธรัฐสวิส และ องค์การตำรวจสากล จึงได้ออกประกาศหมายจับแดง (INTERPOL Red Notice) ก่อนจะส่งเรื่องมายัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ทำการสืบสวนจับกุมติดตามจับกุม จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด พร้อมทั้ง ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

คดีที่ 2 เป็นการจับกุม นายสเตฟาน (นามสมมติ) อายุ 45 ปี สัญชาติสวีเดน ได้ที่ บ้านพัก ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  หลัง สตม.ได้รับการประสานจากสำนักงานประสานงานฝ่ายกิจการตำรวจกลุ่มประเทศนอร์ดิก ขอให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายสเตฟาน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ประเทศสวีเดนและ หมายจับสหภาพยุโรปในข้อหากระทำความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ และ เป็นบุคคลตามประกาศตำรวจสากล ซึ่งได้หลบหนีคดีจากประเทศสวีเดนและเดินทางเข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทย โดยพฤติการณ์กระทำผิด ได้ร่วมกับพวกกระทำการละเมิดสิทธิสัญญาณโทรทัศน์ในประเทศสวีเดน ซึ่งมีผู้เสียหายทั้งหมดจำนวน 3 บริษัท  แล้วนำไปอากาศ ต่อสาธารณชนในช่องทางอื่น ๆ ยูทูป เฟซบุ๊ก ซ้ำอีกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทผู้เสียหาย อันเป็นการละเมิดสิทธิของผู้เสียหายในการออกอากาศทางโทรทัศน์ สร้างความเสียหายให้กับบริษัทผู้เสียหายจำนวนมาก จนตำรวจ สตม. สามารถติดตามจับกุมได้ดังกล่าว

คดีที่ 3 จับกุมแก๊งชาวเกาหลีประกอบด้วย 1.นายคิม (นามสมมติ) อายุ 40 ปี 2.นายเบค (นามสมมติ) อายุ 28 ปี 3.นายชอย (นามสมมติ) อายุ 32 ปี 4.นายจุง (นามสมมติ) อายุ 25 ปี  5.นายชอน (นามสมมติ) อายุ 39 ปี  โดยตำรวจ สตม. ได้ทำการสืบทราบว่า ชาวเกาหลีใต้ทั้งหมดเป็น บุลคลต่างด้าวลักลอบทำงาน โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งพฤติกรรมทั้งหมด ได้แอบลักลอบ เปิดบริษัททัวร์ ภายในบ้าน พูลวิลล่าหรู แห่งหนึ่ง ในเมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แล้ว ทำการ เปิดเว็บไซต์ เชิงธุรกิจการท่องเที่ยว โดยรับจองทัวร์ให้กับชาวเกาหลีใต้ และจัดแพคเกจท่องเที่ยวแบบครบวงจรในประเทศไทย พร้อมทั้งจัดหาที่พักพร้อมเสร็จ และ ใช้บริการสถานประกอบการในเครือของชาวเกาหลีด้วยกัน ทำให้กระทบกับระบบธุรกิจการท่องเที่ยวของ จ.ชลบุรี หรือคล้ายๆ กับพฤติกรรม ทัวร์ศูนย์เหรียญ อีกทั้งยัง ถือว่าเป็นพฤติกรรมแย่งงานคนไทยทำ ก่อนจะควบคุมตัวชาวเกาหลีใต้ทั้งหมด ดำเนินคดีตามกฏหมาย

คดีที่ 4 ตม.จว.ชลบุรี สนธิกำลังร่วมกับ สืบสวน ตม.3 จับกุม หนุ่มจีนลักลอบอยู่ไทยนานกว่า 5 ปี โดย ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.3 สภ.เมืองพัทยา และ ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันจับกุม นายจาง (นามสมมติ) อายุ 41 ปี สัญชาติจีน ในความผิดฐาน อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ได้ที่บริเวณริมถนน ซอยนาเกลือ 18 หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยพฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรม กระทำความผิดขณะที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จนสืบทราบว่า นายจาง ชอบทำตัว ตีสนิทกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและกลุ่มนักธุรกิจชาวจีนตามแหล่งที่กลุ่มชาวจีนพบปะกัน โดยเข้าไปพูดคุยเชิญชวนให้ลงทุนทำธุรกิจต่างๆในประเทศไทย จึงนำข้อมูลนายจางไปตรวจสอบในระบบสารสนเทศ ตม. พบว่า นายจางเดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2558 และ ได้ขออยู่ต่อในราชอาณาจักรต่อเนื่องเรื่อยมา ครั้งสุดท้ายได้รับอนุญาตถึงวันที่ 29 ก.ค.2560 ปัจจุบันการอนุญาตสิ้นสุดลงแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดตามตัวจนพบ นายจาง บริเวณริมถนน  ซอยนาเกลือ 18 หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY) จำนวน 2,160 วัน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย    จากการสอบถามนายจาง รับสารภาพว่า สาเหตุที่อยู่ในราชอาณาจักรจนการอนุญาตสิ้นสุดเนื่องจากตนมีคดีลักทรัพย์ที่ประเทศจีน เกรงว่าหากกลับไปจะได้รับการลงโทษตามกฎหมาย จึงหลบหนีอยู่ในประเทศไทยเรื่อยมา จนถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อกล่าวหาดังกล่าว 
  
คดีสุดท้าย จับ 17 ชาวเวียดนาม เปิดเว็บพนันออนไลน์ และปลอมตราประทับเข้า - ออก โดยเจ้าหน้าที่ สืบสวน กก 2 บก.สส.สตม. ได้นําหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าทําการตรวจค้นที่ย่าน ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พบกลุ่มพนักงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามมีทั้งชายและหญิง ซึ่งกําลัง ทําหน้าที่เป็นแอดมินของเว็บพนันออนไลน์ ที่มีนายทุนเป็นชาวจีนอยู่เบื้องหลัง พร้อมกับยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์ จํานวน 12 เครื่อง นอกจากนั้นยังขยายผลจับกุมกลุ่มคนต่างด้าวในบ้านพักที่อยู่ติดกันอีกสองหลัง ซึ่งจากการตรวจค้นพบ ต่างด้าวทั้งชายหญิงสัญชาติเวียดนาม และพบของกลาง เป็นอุปกรณ์การทําหนังสือเดินทางปลอม และตรายางขาเข้า/ออก ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ และประเทศพม่าและกัมพูชา รวมไปถึงพบบุหรี่ต่างประเทศหนีภาษีจํานวนหนึ่ง จึงควบคุมผู้ต้องหา ทั้งหมดซึ่งเป็นชาวเวียดนาม พร้อมกับของกลาง มาสอบสวนและบันทึกจับกุมที่ สภ.บางพลี ก่อนจะแจ้งข้อหาต่อผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง คือ บุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม 12 คน ข้อหา ชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน (พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ม.12) บุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม เวียดนาม 4 คน ข้อหา ร่วมกันมีไว้ ซึ่งดวงตราหรือรอยตราประทับของ เจ้าพนักงาน (ตราขาเข้า/ออก ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ)และ ร่วมกันมีไว้ ซึ่งหนังสือเดินทางของผู้อื่น ก่อนสืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการและนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. กล่าวว่า การแถลงข่าวในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย การกระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด อีกด้วย

ทั้งนี้ สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th

เครดิต สยามชล นิวส์  

 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม