วันที่ 27 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุม นายวราวุฒิ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 17/2564 ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ , โดยปราศจากเหตุอันสมควร ,พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร” จับกุมได้ที่ในพื้นที่ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

พฤติการณ์กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย อายุ 13 ปีเศษ ได้รู้จักกันกับนายวราวุฒิ ผ่านทางเฟซบุ๊ก และได้พูดคุยกันมาประมาณ 2 สัปดาห์ ต่อมาเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 23.00 น. ผู้ต้องหาได้ทักหาผู้เสียหายผ่านเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าจะมารับผู้เสียหายออกไปเที่ยวงานเทศกาลสงกรานต์ในตัวเมือง

จากนั้นผู้ต้องหาเห็นว่าผู้ปกครองของผู้เสียหายไม่อยู่บ้าน จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับผู้เสียหายที่บ้าน ระหว่างทางผู้ต้องหาได้จอดแวะยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จากนั้นจึงได้ทำทีเป็นพูดคุยกันกับผู้เสียหาย

โดยเมื่อผู้เสียหายเผลอ จึงได้ใช้มือพยายามลวนลาม กระทำอนาจารต่อผู้เสียหาย จากนั้นจึงได้พาผู้เสียหายไปยังห้องน้ำของสำนักงานเทศบาลซึ่งบริเวณเดียวกัน ก่อนลงมือข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ โดยหลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาส่งผู้เสียหาย บริเวณริมถนนก่อนถึงบ้านประมาณ 500 เมตร ผู้เสียหายจึงเดินกลับบ้านเอง และได้เล่าให้บิดาฟังถึงเรื่องที่ถูกกระทำดังกล่าว ต่อมาจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายวราวุฒิ ได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงวางแผนดำเนินการจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขานิพันธ์ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธว่า ในวันเกิดเหตุได้พาผู้เสียหายไปเที่ยวงานวันสงกรานต์ดังกล่าวจริง ก่อนพาผู้เสียหายกลับไปส่งที่บ้าน แต่ไม่ได้ข่มขืนตามที่ถูกกล่าวหา