พลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างไทยในศรีลังกา ที่ถูกใช้แรงงานอย่างหนักจนขาหน้าไม่สามารถงอได้ ซึ่งล่าสุด น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ได้เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของการเคลื่อนย้ายกลับไทยในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ และเตรียมแปลนกรงขนย้ายปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับพลายศักดิ์สุรินทร์ โดยใช้เครื่องบินขนย้าย Ilyushin IL-76 โดย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า

ไม่เคยหยุดตามเรื่องเอาศักดิ์สุรินทร์กลับบ้านเลย… ล่าสุดคือ ทางกระทรวงทรัพย์ฯ ประสานงานกับสถานทูตไทยในศรีลังกาตลอด ติดต่อบริษัททำกรงขนย้าย ปรับรูปแบบให้เหมาะสม ติดต่อบริษัทเครื่องบินที่จะขน ซึ่งเครื่องบินพร้อมขนวันที่ 1 กรกฎาคม  ขณะเดียวกัน สำนักงบทำเรื่องของบกลางส่งไปยังสำนักนายกฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อขอนายกฯอนุมัติ…

ศักดิ์สุรินทร์ต้องได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน มารักษาตัวที่โรงพยาบาลช้าง ลำปาง  จะทำให้ได้ดังที่ตั้งใจ ในช่วงที่เรายังทำได้…

นอกจากนี้ยังได้เผยแบบแปลนกรงขนย้าย พลายศักดิ์สุรินทร์ ซึ่งกรงถูกปรับรูปแบบให้เหมาะสม โดยจะขนย้ายโดยเครื่องบินขนย้าย Ilyushin IL-76

สำหรับเรื่องราวของพลายศักดิ์สุรินทร์ หรือถูกเรียกในภาษาศรีลังกาว่า มุทุราชา (Muthu Raja) เป็นช้าง 1 ใน 3 เชือกที่รัฐบาลไทยมอบให้กับรัฐบาลศรีลังกา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 และรัฐบาลศรีลังกาได้โอนกรรมสิทธิ์พลายศักดิ์สุรินทร์ให้แก่วัดคันเดวิหารเพื่อทำหน้าที่ขนส่งพระบรมสารีริกธาตุ ในช่วงงานแห่พระประจำปีของศรีลังกา ซึ่งมีเฉลี่ย 30 ครั้งต่อปี

ในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับแจ้งเรื่องราวของพลายศักดิ์สุรินทร์จาก กระทรวงการต่างประเทศ โดยองค์การพัฒนาเอกชนเพื่อการคุ้มครองสิทธิสัตว์ในศรีลังกา (Rally for Animal Rights & Environmnet (RARE)) ได้แจ้งให้ทราบถึงความกังวลต่อสุขภาพของพลายศักดิ์สุรินทร์ว่าการดูแลไม่เหมาะสม และจำเป็นอย่างยิ่งที่เขาจะต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน

เนื่องจากปัจจุบันพลายศักดิ์สุรินทร์ เป็นช้างตัวผู้ที่มีอายุ 30 ปีแล้ว หนักประมาณ 3.5 ตัน แต่มีอาการไม่สู้ดีนัก ผอมแห้ง เห็นกระดูกหลังโก่ง ผิวหนังหยาบ งายาวถึง 50 เซนติเมตร ขาหน้าด้านซ้ายผิดปกติ งอขาไม่ได้นาน 8 ปีแล้ว มีฝีหนอง สะโพกขวาและซ้าย พบเป็นก้อนแข็ง และมีหนอง ตั้งแต่ปี 2563 ฝ่าเท้าบางเพราะยืนนานเกินไป และมีอารมณ์เซื่องซึม ไม่ร่าเริง เครียดและตกมัน อีกทั้งยังถูกโซ่ตรวนไว้จนไม่สามารถเดินไปมาได้เลย

ขณะที่ประเทศไทยก็พยายามจะพาพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทยตั้งแต่ปลายปี 2565 แต่สาเหตุที่ยังไม่สามารถนำกลับมาได้มีปัจจัยหลักคือขนาดกรง เนื่องจากพลายศักดิ์สุรินทร์เป็นช้างขนาดใหญ่และมีอายุมากแล้ว ตอนแรกว่าจะส่งกลับเครื่องบิน C130 แต่ก็เกรงว่าจะไม่สามารถใส่ได้พอ จึงจะเปลี่ยนไปขนส่งทางเรือ ซึ่งใช้เวลาขนส่งนานประมาณ 2 สัปดาห์ จากศรีลังกามาไทย แต่ด้วยระยะเวลาที่นานเกินไประหว่างเดินทาง จึงต้องหันกลับไปทบทวนใหม่เรื่องการขนส่งทางเครื่องบินพาณิชย์ ที่สามารถขนส่งกรงขนาดใหญ่ซึ่งมีไม่กี่ลำทั่วโลก มักใช้ขนส่งอาวุธสงคราม รถถัง ซึ่งต้องรอคิวในการขนส่งอีกที ทำให้ขั้นตอนการกลับบ้านของพลายศักดิ์สุรินทร์มีความล่าช้า