หน้าแรก > สังคม > ข่าวที่น่าสนใจ

รอง ผบ.ตร. แถลงจับแก๊งนอมินีชาวต่างชาติ เปิดบริษัทก่อสร้างนำเข้ารถยนต์ทรัพย์สินกว่า 200 ล้านบาท ยังไม่โยงตู้ห่าว

วันที่ 28 ธันวาคม 2022 เวลา 17:21 น.


วันนี้ (28 ธ.ค.65) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์  สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงขยายผลการจับกุมตัวคนต่างด้าวซึ่งมีพฤติการณ์ในการประกอบธุรกิจโดยใช้ชื่อคนไทยเป็นเจ้าของกิจการแทน หรือ นอมินี 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พ.ย.65 เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. ได้เข้าจับกุมตัว Mr.SHAO คนต่างด้าว ตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ในข้อหา ยื่นขอมีบัตรประชาชนไทยโดยมิได้มีสัญชาติไทยฯ พร้อมตรวจยึดของกลางรวม 36 รายการ ได้ที่สมาคมแห่งหนึ่ง ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ซึ่งในการเข้าตรวจค้นจับกุมพบพยานหลักฐานว่า Mr.SHAO มีพฤติการณ์ในการประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยใช้ชื่อคนไทยเป็นเจ้าของกิจการแทน จำนวน 3 บริษัท จึงได้ร่วมกับ บก.ปอศ. สืบสวนขยายผลจนพบชาวไทยผู้ให้ความช่วยเหลือ Mr.SHAO ในการประกอบธุรกิจในบริษัทดังกล่าว โดยต่อมาได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญา เพื่อเข้าตรวจค้นบริษัทที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด จำนวน 3 บริษัท คือ บริษัท คิววาย ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด , บริษัท ลีฟ อิเล็กทริก จำกัด  และบริษัท โฮป โฮม บิวดิ้ง จำกัด ดำเนินการเกี่ยวกับการก่อสร้างและนำเข้ารถยนต์และสถานที่ที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 จุด จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับชาวไทยผู้ให้ความช่วยเหลือในการกระทำความผิดดังกล่าว จำนวน 3 ราย ซึ่งต่อมาในวันที่ 23 ธ.ค.2565 สามารถจับกุมตัว นายศรัณย์ฯกับพวกรวม 3 คน ที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับฐานเป็นนอมินี 

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า Mr.SHAO  มีการเปิดบริษัทโดยใช้ชื่อคนไทยเป็นเจ้าของกิจการแทน (นอนิมี) มากกว่า 3 บริษัทข้างต้น ซึ่งมีทุนจดทะเบียนรวมมากกว่า 10 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด และตรวจพบทรัพย์สินของ Mr.SHAO ซึ่งมีคนไทยและเปิดบริษัทที่ใช้ชื่อคนไทยถือครองแทนมากกว่า 200 ล้านบาท อีกทั้งพบว่า Mr.SHAO  มีการนำบัตรประชาชนไทยโดยมิได้มีสัญชาติไทยไปใช้กระทำความผิดอีกหลายอย่าง  เช่น เปิดบัญชีธนาคาร และทำหนังสือเดินทาง หรือ pass sport ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 หมาย คือ แจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน  และประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบว่าขบวนการดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับทุนจีนสีเทาของ ตู้ห่าว และการทำธุรกิจยังไม่เกี่ยวข้องกัน ส่วนจะมีการฟอกเงินหรือทำผิดกฎหมายอื่นๆหรือไม่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล แต่จากการตรวจสอบทั้ง3 บริษัท ไม่มีศักยภาพพอจะหาเงินและทรัพย์สินมากกว่าทรัพย์สินที่ตรวจยึด ส่วนเบื้องหลังธุรกิจจะเอาเงินมาจากไหนทำธุรกิจสีเทาหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมเตือนไปยังคนไทยที่รับจ้างเป็นนอมินีให้ต่างชาติจะถูกเนินคดีซึ่งมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสน ถึง 1 ล้านบาท 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม