วันที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 15:34 น.
วันที่ 17 ธันวาคม 2568 เพจ เชียงใหม่นิวส์ Chiang Mai News ข่าวเชียงใหม่ โพสต์ข้อความระบุ เชียงใหม่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการกู้ภัยโลก เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่บ้านช้างตระกูลแสน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ มีการฝึกซ้อมการค้นหาและกู้ภัยระดับนานาชาติ Thailand International Multi-Hazard SAR Exercise (TIMS 2025) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการนำ “ช้าง” และ “สุนัข K9” เข้าร่วมฝึกปฏิบัติการกู้ภัยร่วมกับมนุษย์อย่างเป็นระบบ ท่ามกลางความสนใจจากหน่วยงานด้านความมั่นคง และการช่วยเหลือภัยพิบัติทั้งในและต่างประเทศ
นายไชยเชษฐ์ พัดสี ผู้อำนวยการฝึกอบรมและกู้ภัย ประจำภูมิภาคเอเชีย สมาพันธ์การค้นหาและกู้ภัยนานาชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยพิบัติที่ทวีความรุนแรงและเกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัย ดินถล่ม หรืออุบัติเหตุขนาดใหญ่ การเตรียมความพร้อมด้านการค้นหาและกู้ภัยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง การฝึก TIMS 2025 ครั้งนี้ มุ่งเน้นการบูรณาการศักยภาพของมนุษย์และสัตว์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตอบโต้ภัยพิบัติ และลดการสูญเสียในสถานการณ์จริง
การฝึกซ้อมครั้งนี้มีช้างจากบ้านช้างตระกูลแสนเข้าร่วมจำนวน 4 เชือก นำทีมโดย พลายแสนทรัพย์ พลายแสนตัน พลายวาเลนไทน์ และพลายงาม พร้อมด้วยสุนัขค้นหาและกู้ภัย (K9) จำนวน 6 ตัว พันธุ์ลาบราดอร์และโกลเดนรีทรีฟเวอร์ โดยแบ่งการฝึกออกเป็น 4 สถานีหลัก ประกอบด้วย การตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ สถานการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก สถานการณ์ดินสไลด์และแพคว่ำ และสถานการณ์อุบัติเหตุรถตกเหว เสมือนเหตุการณ์ภัยพิบัติจริงในพื้นที่ทุรกันดาร
นายไชยเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดเด่นของการฝึกครั้งนี้คือการนำจุดแข็งของสัตว์แต่ละชนิด มาใช้ร่วมกันอย่างเหมาะสม สุนัข K9 มีความสามารถในการดมกลิ่นและค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่ซับซ้อน ขณะที่ช้างมีพละกำลัง แข็งแรง และคุ้นเคยกับภูมิประเทศทุรกันดาร สามารถลุยน้ำ ลุยโคลน และลำเลียงอุปกรณ์หรือผู้ประสบภัยในพื้นที่ ที่ยานพาหนะหรือเครื่องจักรหนักไม่สามารถเข้าถึงได้
ด้านนายสุทธิเกียรติ โสภณิก ผู้อำนวยการองค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ K9 USAR Thailand ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการฝึก TIMS 2025 ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกของความร่วมมือระหว่างสุนัขกู้ภัยและช้างอย่างเป็นรูปธรรม สุนัขมีความคล่องตัวและรวดเร็ว ส่วนช้างมีพละกำลังและความทนทาน เมื่อนำมาประสานการทำงานร่วมกัน จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการตอบสนองต่อภัยพิบัติได้อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ในปี 2569 มีแผนขยายความร่วมมือในระดับนานาชาติ โดยเชิญประเทศที่มีช้าง เช่น สปป.ลาว เมียนมา มาเลเซีย และไต้หวัน เข้าร่วมการฝึก เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และร่วมกันพัฒนามาตรฐานการกู้ภัยในระดับภูมิภาค
ขณะที่พระครูสังฆรักษ์วีรวัฒน์ วีรวฑุฒโน หรือพระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง ผู้ก่อตั้งบ้านช้างตระกูลแสน กล่าวว่า แนวคิดการพัฒนาช้างกู้ภัยเกิดขึ้น จากประสบการณ์ตรงในช่วงอุทกภัยครั้งใหญ่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2567 ที่มีการนำช้างจำนวน 4 เชือก เข้าช่วยลำเลียงอาหารและสิ่งของไปยังชุมชนที่ถูกตัดขาด จึงเห็นศักยภาพของช้างในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และพัฒนาทักษะให้สามารถปฏิบัติงานด้านกู้ภัยได้อย่างจริงจัง
พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันช้างของบ้านช้างตระกูลแสนผ่านการฝึกด้านการกู้ภัยแล้ว 8 เชือก และพร้อมเข้าปฏิบัติการทันที หากเกิดภัยพิบัติในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ลดความสูญเสีย และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ประสบภัย นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี เข้ามาเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างทีมกู้ภัยมนุษย์ ช้าง และสุนัข ไม่ว่าจะเป็นโดรนทางอากาศหรือโดรนตรวจจับความร้อน เพื่อสำรวจเส้นทางและวางแผนก่อนเข้าพื้นที่จริงอย่างรอบคอบและปลอดภัย




