หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2568

วันที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 05:43 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2568


>> รถจยย.บิ๊กไบค์ชนท้ายรถเทรลเลอร์ ใกล้ทางแยกสนามกอล์ฟเด่นชัย มีผู้เสียชีวิตที่ รพ.

09.00 น. รับแจ้งจาก สมาคมกู้ภัยเด่นชัยร่วมบุญ มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ ชนท้ายรถ บรรทุกพ่วง และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ถนนหมายเลข 101 บริเวณใกล้เคียงทางแยกสนามกอล์ฟเวียงโกศัยเด่นชัย ในพื้นที่ อ.เด่นชัย จ.แพร่

ที่เกิดเหตุ พบ รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สีเขียว - ดำ ป้ายทะเบียน ลำปาง ลักษณะชนกับรถเทรลเลอร์ วอลโว่ ป้ายทะเบียน กทม. ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บชาย 1 ราย อายุ 42 ปี ตรวจไม่พบชีพจร ไม่รู้สึกตัว ทำการCPR รถโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัยนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เด่นชัย


>> จับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพร้อมผู้นำพา ขณะผ่านจุดตรวจหน้าหมวดทางหลวงสังขละบุรี

10.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ได้ร่วมกันจับกุมต่างด้าวพร้อมผู้นำพา ขณะปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจ ณ บริเวณหน้าหมวดทางหลวงสังขละบุรี ถนนสาย 323 สังขละบุรี–ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

ขณะปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีน้ำตาล ทะเบียน เชียงใหม่ ขับขี่ผ่านจุดตรวจมุ่งหน้าอำเภอทองผาภูมิ โดยมี นายเล็ก (ไม่ทราบชื่อสกุล) ผู้ถือบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน ชาว อำเภอสังขละบุรี เป็นผู้ขับขี่

จากการตรวจสอบพบว่า บุคคลที่โดยสารมากับรถยนต์ดังกล่าว ไม่สามารถแสดงเอกสารสำคัญประจำตัวหรือเอกสารแสดงสิทธิการอยู่ในราชอาณาจักรได้ จำนวน 7 คน ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมี ผู้นำพา 1 คน

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการ ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป


>> ป.ป.ช. รับสำนวนดีเอสไอ คดีทุจริตเรือนจำพิเศษฯ “จีนเทา” ย้ำไม่เร่งรัด พร้อมขยายผลเอาผิดเพิ่ม

10.00 น. นายพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายให้ติดตามความคืบหน้าคดีทุจริตในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กรณีเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มผู้ต้องขังจีนเทา โดยขณะนี้คณะพนักงานสืบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช. แล้วตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. ซึ่ง ป.ป.ช. จะตรวจสอบรายละเอียดพยานหลักฐาน พฤติการณ์ผู้เกี่ยวข้อง และเส้นทางการเงิน ก่อนเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาว่าจะรับไต่สวนเองหรือส่งกลับดีเอสไอดำเนินการต่อ

นายพัฒนพงศ์ ยืนยันว่า การส่งสำนวนเป็นไปตามกรอบกฎหมาย ป.ป.ช. ไม่ได้เป็นการเร่งรัด และแม้เบื้องต้นจะมีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐเพียง 2 ราย แต่ ป.ป.ช. ยังมีอำนาจไต่สวนเพิ่มเติม ขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องรายอื่นได้ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลภายนอก รวมถึงชาวต่างชาติ พร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ควบคู่กับการคุ้มครองพยานและการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ


>> สนธิญา บุกสถานทูตจีน ทวงคำตอบ อาวุธจีนโผล่แนวหน้าเขมร หลังทหารไทยยึดเนิน 500

11.00 น. นายสนธิญา สวัสดี เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อทวงถามความชัดเจน กรณีทหารไทย ร.17 พัน 2 ตรวจยึดอาวุธสัญชาติจีนจำนวนมากที่ทหารกัมพูชาทิ้งไว้บริเวณเนิน 500 ช่องอานม้า อาทิ เครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพา และอาวุธยิงจรวดนำวิถี GAM-102-LR ซึ่งถือเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัย

นายสนธิญา ระบุว่า การพบอาวุธดังกล่าวเป็นข้อสงสัยว่ากัมพูชาได้อาวุธมาจากแหล่งใด และประเทศจีนมีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนหรือไม่ เนื่องจากอาวุธชนิดนี้เคยถูกนำมาจัดแสดงในประเทศไทยก่อนหน้านี้ ทั้งที่จีนเคยยืนยันว่าไม่สนับสนุนอาวุธให้ทั้งไทยและกัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้เอกอัครราชทูตจีนชี้แจงอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันตั้งข้อสังเกตว่าเงินที่ใช้จัดซื้ออาจเชื่อมโยงกับขบวนการผิดกฎหมาย เช่น สแกมเมอร์ บ่อนกาสิโน และคอลเซ็นเตอร์ ก่อนย้ำว่า หากจีนสนับสนุนอาวุธดังกล่าว เท่ากับเป็นการสนับสนุนเงินผิดกฎหมายทางอ้อม ทั้งนี้ ภายหลังนายสนธิญาระบุว่าจะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อ ปปง. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องต่อไป


>> รถบรรทุกพ่วงชนท้ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แล้วพลิกตะแคงกลางถนนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย

11.00 น. สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกชนกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมีผู้บาดเจ็บที่บริเวณถนนพระราม 2 ขาเข้า ตรงข้ามหมู่บ้านสาครวิลล่า ม.3 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร พลิกหงายตะแคงอยู่ที่ช่องทางด่วน โดยมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยรวม 5 คนเจ้าหน้าที่จึงต้องทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลมหาชัย1 และห่างไปเล็กน้อยมีรถพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ เลขทะเบียน ปทุมธานี จอดอยู่ข้างทาง

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุทางรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้เดินทางมาจากหัวหินเพื่อจะไปสนามบินดอนเมือง และพอใกล้ที่เกิดเหตุปรากฏว่าถูกรถบรรทุกพ่วงที่อยู่ด้านหลังได้ชนเข้าที่บริเวณด้านท้ายทำให้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลพลิกตะแคงและมีผู้บาดเจ็บ ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เชิญคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป


>> เลขาฯ ศรชล. ยันไม่ปิดอ่าวไทย ย้ำมาตรการบังคับใช้เฉพาะเรือชักธงไทย สกัดน้ำมัน-ยุทธปัจจัย เข้ากัมพูชา

10.58 น. พล.ร.อ.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะ เลขาธิการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กล่าวก่อนประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อขออนุมัติ ให้หน่วยงานใน ศรชล. ยกระดับมาตรการตามมาตรา 27 วรรค 2 และ 3 ในการบูรณากาการกลไก การควบคุมและเฝ้าระวังเรือสินค้าพาณิชย์ เรือประมง เรือสนับสนุนทำงานประมง ทั้งในส่วนของเรือไทย และผู้ประกอบการทางทะแล ที่เป็นเจ้าของเรือโดยตรงหรือทางอ้อมที่เป็นเจ้าของกิจการ ผู้บริหารกิจการกองเรือภาคการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศและมีพฤติการลักลอบลำเลียงและส่งออกน้ำมันหรือสินค้ายุทธปัจจัยไปยังประเทศกัมพูชา พร้อมให้ ศรชล. พิจารณาประกาศพื้นที่โดยรอบทะเลอาณาเขตรอบท่าเรือกัมพูชา เป็นพื้นที่เสี่ยง ว่า

จะเป็นการเสนอเรื่องในส่วนของ ศรชล. เกี่ยวกับความปลอดภัยทางทะเล โดย ยอมรับว่าจะโฟกัสเฉพาะเรือสัญชาติไทยเท่านั้น ทั้งนี้ขอให้ความมั่นใจว่าไม่มีผลกระทบกับเรือของต่างชาติ เป็นการบริหารจัดการเฉพาะเรือที่ชักธงไทยเท่านั้น หรือ เรือสินค้าของไทย สำหรับเรือของไทยที่ไปรับน้ำมันจากประเทศที่สามมาส่งให้กัมพูชานั้น ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการทําธุรกิจโดยทั่วไป ส่วนในของกัมพูชาจะต้องตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง เนื่องจาก ศรชล.มีมาตรการอยู่แล้ว

ส่วนที่ว่า หาก สมช.อนุมัติ การบังคับใช้จะครอบคลุมเวลาเท่าไหร่ พล.ร.อ.ธาดาวุธ กล่าวว่า "ต้องดูตามสถานการณ์ ยังไม่สามารถระบุได้"


>> ผบ.ตร.เยี่ยมให้กำลังใจ ตชด.แนวหน้า ยืนยันสำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลเต็มที่

11.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางไปเยี่ยม ด.ต.อภินันท์ ลาโพธิ์ ผบ.หมู่ กก.ตชด.22 เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนแนวหน้าที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยเคียงข้างกองทัพ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะแล้วรับการรักษาเบื้องต้นก่อนกลับไปปฏิบัติหน้าที่แนวหน้าทันที จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งที่ 2 จึงส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจเมื่อวานนี้

ผบ.ตร. ได้แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจ ด.ต.อภินันท์ฯ ยืนยันสำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลสวัสดิการตำรวจเต็มที่ พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. จัดส่งอุปกรณ์ในการดูแลป้องกันตนเองให้กับตำรวจตระเวนชายแดนแนวหน้า โดยขณะนี้ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ว่าได้รับอุปกรณ์ดังกล่าวและส่งถึงมือตำรวจตระเวนชายแดนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ด.ต.อภินันท์ฯ กล่าวว่า ยังมีกำลังใจดี และพร้อมดูแลประชาชน ปกป้องอธิปไตยชาติอย่างเต็มกำลัง โดยหากหายจากอาการบาดเจ็บก็พร้อมกลับไปปฏิบัติหน้าที่แนวหน้าทันที ซึ่ง ผบ.ตร.ได้ชื่นชม ด.ต.อภินันท์ฯ พร้อมตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจในพื้นที่ทุกนาย ในความเข้มแข็ง กล้าหาญ ยืนยันว่า ในฐานะ ผบ.ตร.จะสนับสนุนและดูแลทุกนายอย่างดีที่สุด


>> ตำรวจทางหลวงยึดไอซ์กว่า 500 กิโลกรัม คนร้ายตกใจทิ้งรถหนี

11.20 น. กองบังคับการตำรวจทางหลวง ทำการตรวจยึดของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 12 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 500 กก. และรถกระบะ 1 คัน

ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ในวันที่ 14 ธ.ค.68 เวลากลางคืน จะมีรถกระบะ ทะเบียนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขนยาเสพติดมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครราชสีมา ตำรวจทางหลวงจึงได้วางกำลังเฝ้าระวังตลอดเส้นทาง กระทั่งพบรถยนต์คันต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกให้หยุดตรวจ แต่คนร้ายจอดรถไหล่ทางแล้ววิ่งหลบหนี ทิ้งรถไว้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว พบยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) จำนวน 12 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 500 กก. บรรจุใส่กระสอบสีดำวางอยู่ภายในห้องโดยสารของรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมกับ ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) นำส่ง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการ สืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังการลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป


>> ศาลพิพากษา จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา อดีต สส.ประชาชน ปม ใช้ใบ สด.43 ปลอม

12.19 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 910 ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่อทย.155/2567 กรณีที่ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน (ปชน.) ได้แสดงใบผ่านเกณฑ์ทหาร หรือ" ใบ สด.43 ปลอม" ก่อนนำมาเผยแพร่ในโซเชียล จนถูกดำเนินคดี ในข้อหา "ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ อันเป็นเท็จ" ซึ่งที่ผ่านมา จำเลยให้การปฏิเสธ

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.32 น. ศาลอาญาอ่านคำพิพากษา ลงโทษ จำคุก อดีต สส.จิรัฏฐ์ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ในความผิดฐานใช้เอกสารใบผ่านเกณฑ์ทหาร (สด.43) ปลอม


>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยนวมินทร์ 111 แยก 4 พื้นที่เขตบึงกุ่ม

12.41 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยนวมินทร์ 111 แยก 4 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 3 ภายในห้องพระ เพลิงลุกไหม้โต๊ะหมู่บูชา หิ้งพระ กระถางธูปเทียน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 2 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากการจุดธูปเทียนทิ้งไว้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน


>> CIB ผนึก อย. ทลาย 3 เครือข่ายยาเขียวเหลือง–ยาแก้ไอปลอม ตรวจ 10 จุด 4 จังหวัด ยึดกว่า 20 ล้าน ตัดวงจร “4 คูณ 100”

13.30 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัยผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลปฏิบัติการร่วมตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปคบ. และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทลายเครือข่ายลักลอบจำหน่ายยาเขียวเหลือง ยาแก้ไอ และโรงงานผลิตยาแก้ไอปลอม เพื่อสกัดการนำไปผสมเป็น “4x100” มอมเมาเยาวชน โดยเข้าตรวจค้น 10 จุด ในพื้นที่ จ.ชลบุรี จ.สมุทรปราการ จ.สิงห์บุรี และกรุงเทพมหานคร ยึดของกลางกว่า 300 รายการ อาทิ ยาทรามาดอลกว่า 1.3 ล้านแคปซูล ยาแก้ไอ–ยาแก้แพ้กว่า 10,000 ขวด มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท พร้อมจับกุมผู้ต้องหาเบื้องต้น 1 ราย ฐานประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการสืบสวนพบการกระทำความผิด 3 เครือข่ายหลัก ทั้งเครือข่ายจำหน่ายยาในภาคตะวันออกและปริมณฑล เครือข่ายร้านขายยาเถื่อนในกรุงเทพฯ และเครือข่ายโรงงานผลิตยาแก้ไอปลอมใน จ.สิงห์บุรี ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 หลายฐานความผิด ด้าน อย. ระบุพบความผิดปกติการสั่งซื้อยาทรามาดอลจำนวนมากตั้งแต่ปี 2567–2568 ก่อนประสานตำรวจขยายผล ขณะที่ ผบช.ก. ย้ำปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการตัดตอนต้นตอการทำลายเยาวชน พร้อมเดินหน้าดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกระดับอย่างเข้มงวด


>> ครม.ไฟเขียว งบกลาง 2.4 พันล้าน หนุนกองทัพรับมืออริราชศัตรู เสริมความมั่นคงชายแดน

14.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง จำนวน สองพันสี่ร้อยกว่าล้านบาท (2,444,061,516 บาท) ตามคำขอของกระทรวงกลาโหม เพื่อรองรับสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ด้านตะวันออก

นายสิริพงศ์ ระบุว่า งบประมาณดังกล่าวเป็นการขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากกองทัพบกและกองทัพเรือ เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเตรียมความพร้อมด้านความมั่นคงการป้องกันประเทศ และการรับมือภัยคุกคามจากอริราชศัตรูในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลความปลอดภัยของประเทศและประชาชน

ทั้งนี้ รายละเอียดเชิงลึกของการใช้งบประมาณไม่สามารถเปิดเผยได้ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเงินงบประมาณส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้ในการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กำลังพลกองทัพ เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ในการดูแลสถานการณ์ชายแดน และดำเนินมาตรการที่จำเป็น เพื่อรักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติในทุกมิติ


>> “บิ๊กโจ๊ก” ยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ รอง ปธ.ศาลปกครองสูงสุด–องค์คณะ 61 คน ฐานละเว้นหน้าที่

15.00 น. “บิ๊กโจ๊ก” เดินทางมายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อยื่นฟ้องรองประธานศาลปกครองสูงสุด พร้อมองค์คณะและเจ้าหน้าที่ธุรการศาลปกครอง รวม 61 คน ซึ่งมีส่วนร่วมพิจารณาและให้ความเห็นในคดีของตนเอง โดยกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และมีมติอันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ตน

รายงานข่าวระบุว่า การยื่นฟ้องครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งคดีต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ “บิ๊กโจ๊ก” เคยยื่นฟ้องรองประธานศาลปกครองสูงสุดในความผิดฐานอื่นไปแล้ว โดยเห็นว่าการพิจารณาคดีดังกล่าวมีลักษณะขัดต่อหลักกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายต่อตนเองอย่างมีนัยสำคัญ


>> "สีหศักดิ์" เผย จีนยืนยันเป็นอาวุธเก่า ไม่ได้ส่งอาวุธใหม่ให้กัมพูชา ส่วนประเด็นทหารรับจ้างไม่ได้รับการยืนยัน

15.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า การที่กระทรวงการต่างประเทศของไทย ส่งหนังสือถึงองค์การสหประชาชาติ เนื่องจากทางกัมพูชาได้ส่งหนังสือไปก่อน แต่ก็ยังไม่มีการเรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน จะมีการประชุมสมัยพิเศษ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

นายสีหศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตจีนเมื่อสันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยบอกว่า จีนอยากเห็นทั้งสองฝ่ายเดินหน้าสู่สันติภาพ และพยายามแก้ไขปัญหาระหว่างกันด้วยสันติวิธี ฝ่ายไทยพร้อมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การหยุดยิงเป็นสิ่งที่ต้องทำทั้งสองฝ่าย การพูดว่าหยุดยิงใครก็พูดได้ แต่จากที่เห็นคือ บอกว่าหยุดยิง แต่วันรุ่งขึ้นกัมพูชาก็ยิงเข้ามาอีก ซึ่งในเรื่องนี้ไทยมีความชัดเจนอยู่แล้ว หากต้องการหยุดยิง กัมพูชาต้องยุติก่อน แล้วค่อยมาพูดกัน

ส่วนอาวุธหนักที่พบว่ากัมพูชาใช้อาวุธของจีน รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า "จีนยืนยันว่าอาวุธดังกล่าวเป็นอาวุธเก่า และทางการจีนไม่ได้ส่งมอบอาวุธใหม่ให้กัมพูชา" ดังนั้น อาจมีหลายวิธีการทำให้ได้มาซึ่งอาวุธต่างๆ เหล่านี้ การที่กัมพูชาใช้อาวุธจากจีนซึ่งถือเป็นอาวุธหนัก และยังโจมตีมายังฝั่งไทยทำให้ได้รับความเสียหาย เราต้องติดตามและพูดคุยกับฝ่ายจีนด้วย ส่วนประเด็นทหารรับจ้างของทางฝั่งกัมพูชาที่ปรากฏในข่าว ตนก็ได้รับทราบข่าวมา แต่ไม่ได้รับการยืนยัน


>> รถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง ริมถนนแจ้งสนิท มีผู้เสียชีวิต 2 รายติดอยู่ในยานพาหนะ

16.30 น. หน่วยกู้ภัยศิษย์พระจี้กงอุบลฯ มีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทางแล้วเกิดเพลิงลุกไหม้ และมีคนติดอยู่ภายในยานพาหนะ ริมถนนแจ้งสนิท ฝั่งขาออก ช่วงบ้านยางน้อย ในพื้นที่ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน กาฬสินธุ์ ลักษณะตกอยู่ข้างทาง สภาพรถพังเสียหายทั้งคัน ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นคนขับรถและผู้โดยสาร ทางอาสากู้ภัยร่วมกันใช้เครื่องตัดถ่างจำนวน 2 ชุด เพื่องัดรถและนำร่างออกมา โดยผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชายไทย ทั้ง 2 ราย ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ทีการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขื่องใน


>> ยกเลิกเคอร์ฟิว 5 อำเภอ จ.ตราด หลังสถานการณ์อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้แล้ว

17.00 น. พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เซ็นหนังสือ ยกเลิกประกาศห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด ในพื้นที่จังหวัดตราด รวม 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคลองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ อำเภอแหลมงอบ อำเภอเขาสมิง และอำเภอเมืองตราด

เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ที่ปรากฏภัยคุกคามอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้แล้ว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในการดำเนินชีวิตประจำวัน จึงให้ยกเลิกประกาศห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานภายในระหว่างระยะเวลาที่กำหนดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


>> รวบ 19 แรงงานต่างด้าว ลอบเข้าเมือง คนขับเร่งเครื่องหลบหนี ก่อนจนมุมในไร่อ้อย

17.36 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ตำรวจทางหลวงไล่สกัดรถต้องสงสัยบนทางหลวง 323 คนขับเร่งเครื่องหลบหนี ก่อนจนมุมในไร่อ้อย รวบแรงงานต่างด้าว 19 คน ลักลอบเข้าเมือง 
ตำรวจทางหลวงสืบทราบว่ามีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จึงออกตรวจบนทางหลวงหมายเลข 323 กม.100 จังหวัดกาญจนบุรี พบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลต้องสงสัย ก่อนเรียกตรวจค้น แต่คนขับเร่งเครื่องหลบหนี

เจ้าหน้าที่ติดตามไกลกว่า 40 กิโลเมตร จนรถเสียหลักชนคันดินในไร่อ้อย พื้นที่หมู่บ้านวังเย็น อำเภอเมืองกาญจนบุรี คนขับทิ้งรถหลบหนี พบแรงงานต่างด้าวรวม 19 คน ไม่สามารถแสดงเอกสารการเข้าเมืองได้

จากการสอบสวนให้การว่าลักลอบเข้ามาจากประเทศเมียนมา เสียค่านายหน้าคนละ 10,000 ถึง 20,000 บาท เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทยและเดินทางต่อไปประเทศมาเลเซีย ก่อนควบคุมตัวทั้งหมด ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี


>> กองทัพภาคที่ 1 สรุปเหตุปะทะ คลองแผง-หนองหญ้าแก้ว-หนองจาน

18.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว

กกล.บูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นวันที่ 9 โดยยังมีการรบปะทะเพื่อยึดครองพื้นที่ เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ดังนี้ 
พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ฝ่ายเราดำเนินกลยุทธ์ และใช้การยิงจากอาวุธยิงสนับสนุน เพื่อควบคุมพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่โล่งแจ้ง โดยฝ่ายกัมพูชาได้ต่อต้านด้วยการยิง BM-21,ปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง

พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง ฝ่ายเราวางกำลังยึดครองพื้นที่ตามแนวอ้างสิทธิ์ และตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาตามสถานการณ์ พร้อมกับใช้อาวุธยิงสนับสนุนเพื่อป้องกันการเพิ่มเติมกำลังของฝ่ายกัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชายังคงต่อต้านด้วยการยิง BM-21,ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง และพยายามเพิ่มเติมกำลังเพื่อปฏิบัติต่อฝ่ายเรา ทั้งนี้ ฝ่ายเราสามารถทำลายเสาสัญญาณ การติดต่อสื่อสารของฝ่ายกัมพูชา ด้านตรงข้ามบ้านหนองหญ้าแก้ว

พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง ฝ่ายเราดำเนินกลยุทธ์ และใช้การยิงจากอาวุธยิงสนับสนุนเพื่อควบคุมพื้นที่ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ต่อต้านด้วยการยิง BM-21,ปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการเตรียมการรับคนไทยจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา กลับเข้าสู่ประเทศ ณ บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศนั้น ปัจจุบันฝ่ายกัมพูชายังคงปฏิเสธการปล่อยตัวคนไทยกลับประเทศ เป็นวันที่ 6

ในส่วนกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยวันนี้มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เพิ่มเติมจำนวน 1 นาย สรุปยอดกำลังพลได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ตั้งแต่ 8 ธ.ค.68 - ปัจจุบัน บาดเจ็บ 53 นาย และเสียชีวิต 3 นาย ประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ใน 4 อำเภอ ทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 5 พื้นที่ จำนวน 44 ศูนย์ รวม 20,049 คน


>> ตำรวจ สน.เพชรเกษม ตามยึดเงินสด 5 แสน คืนให้ผู้เสียหาย หลังถูกแก๊งจีนเทา จัดหาบัญชีม้า หลอกโอน ในคดีฉ้อโกงออนไลน์

18.46 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 โดย พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.บก.น.9 และสถานีตำรวจนครบาลเพชรเกษม ปฏิบัติการ Money Cash Back มอบคืนให้ผู้เสียหาย ในคดีฉ้อโกงออนไลน์ เป็นเงินจำนวน 500,000 บาท สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ วันที่ 30 ต.ค.68 เวลา 15:04 น. มีผู้เสียหายได้ถูกคนร้ายหลอกให้โอนเงินจากบัญชีตนเอง 4 ครั้ง รวมทั้งหมด 2,700,000 บาท โดยคนร้ายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่เครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ แจ้งนำข้อมูลไปเปิดเบอร์เกี่ยวข้องกับคดีความ โอนสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิจิตร จากนั้นแอดไลน์ ชื่อ สภ.เมืองพิจิตร แจ้งละเอียดเกี่ยวข้องกับคดีความ และให้โอนเงินในบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบจนกระทั่งผู้เสียหายทราบว่าถูกหลอกจึงได้แจ้งความออนไลน์ และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.ประชาชื่น

ซึ่งต่อมาจากการตรวจสอบทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เพชรเกษม ได้มีการจับกุมกลุ่มแก๊งจีนเทา จัดหาบัญชีม้า มาถอนเงินสดดังกล่าว ที่ห้างสรรพสินค้าย่านบางแค เจ้าหน้าที่ฯได้ทำการสืบขยายผล พบเงินสดที่ตัวของผู้ต้องหาชายคนหนึ่ง ซึ่งมีคดีร่วมกันฉ้อโกง ที่ สน.เพชรเกษม จำนวน 500,000 บาท เจ้าหน้าที่ฯจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ และยึดเงินสดดังกล่าวไว้ ต่อมาเมื่อทราบว่าเงินสดดังกล่าวเป็นเงินของผู้เสียหาย ซึ่งถูกแก๊งมิจฉาชีพฉ้อโกงออนไลน์มา และมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว จึงได้มีการติดต่อประสานกับ พงส.สน.ประชาชื่น เพื่อคืนเงินดังกล่าวให้กับผู้เสียหาย

ด้าน พล.ต.ต.สามารถ พรมชาติ ผบก.น.9 กล่าวว่า “กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นความโชคดีของผู้เสียหายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดเงินสดดังกล่าวไว้ได้ และได้ติดต่อมารับคืน ถือว่าเป็นการคืนความสุขให้กับผู้เสียหาย และเป็นของขวัญปีใหม่ที่จะถึงนี้ และที่สำคัญขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เพชรเกษม ที่ได้ทำงานขยายผลอย่างต่อเนื่อง และได้หยุดวงจรของคนร้าย ซึ่งทราบว่าเคสนี้ได้มีการออกหมายจับไปจำนวน 8 หมายจับ และมีการขยายผลแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 5 คน ร่วมถึงมีการตรวจค้นตามยุทธการแหกคอกม้า และที่สำคัญคือการคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้ทัน” 
 

>> จ.ฉะเชิงทรา รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ กลางถนนหมายเลข 331 เสียชีวิต 1 ที่เกิดเหตุและเสียชีวิต 1 ที่โรงพยาบาล

21.49 น. รับแจ้งจาก สมาคมพุทธอุปถัมภ์แห่งประเทศไทย-กู้ภัยพนม มีอุบัติเหตุ รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนหมายเลข 331 ช่วงปั๊ม ปตท. เลยแยกหัวสำโรง ประมาณ 100 เมตร ในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ชนกับรถจักรยานยนต์ สีขาว ป้ายทะเบียน สระแก้ว ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 32 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีก 1 รายมีอาการสาหัส ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยนำส่ง รพ.แปลงยาว และได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นหญิงไทย อายุ 36 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แปลงยาว


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

01.06 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.4 ความลึก 2 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน


 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม