วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 เวลา 04:43 น.
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568
>> 04.20 น. ตำรวจสืบสวนภูธรภาค.4 เข้าตรวจสอบที่บาร์ 2 แห่ง ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งว่าเปิดให้บริการเกินเวลาและมีการมั่วสุมยาเสพติด
จากการเข้าตรวจสอบที่บาร์แรก จับกุมผู้ต้องหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2(ยาเค) ทั้งหมด 8 ราย เป็นชาย 7 ราย หญิง 1 ราย และจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 2(ยาเค) ทั้งหมด 1 ราย พร้อมของกลางยาเคจำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวม 2 กรัม
และตรวจสอบบาร์ที่ 2 พบว่ามีการปาร์ตี้ยาในห้องคาราโอเกะเบอร์ 4 และ 7 จึงทำการจับกุมนักท่องเที่ยวที่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2(ยาเค) ทั้งหมด 15 คน จับกุมผู้ต้องหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1,2(ยาเค,ยาไอซ์,ยาอี) พร้อมของกลาง ยาเค 2 ถุง รวม 2 กรัม ยาไอซ์ 2 ถุง รวม 2 กรัม และขนม (ยาอี) จำนวน 1 เม็ด และควบคุมผู้จัดการดูแลบาร์ทั้ง 2 แห่ง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า สถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง มีการเปิดให้บริการเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และน่าเชื่อว่ามีการใช้ยาเสพติด จึงได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ จนสามารถจับกุมนักท่องเที่ยวชายหญิง ที่เสพยาเสพติดชนิดต่างๆ ในร้านได้ จำนวน 27 คน ของกลาง ยาเค 7 ถุง ยาไอซ์ 2 ถุง ยาอี 1 เม็ด และจับกุมผู้จัดการร้าน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมาย
>> ในหลวง ทรงห่วงน้ำท่วมภาคใต้ พระราชทาน 100 ล้าน ฟื้นฟูโรงพยาบาลหาดใหญ่ พร้อมพระราชทานโดรนช่วยค้นหา แจกจ่ายอาหาร ทรงรับศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
12.30 น. ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) แถลงว่า ได้รับหนังสือจากสำนักพระราชวัง หนังสือพระราชกระแสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เชิญพระราชกระแสดังนี้
1. ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ และทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัยต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับศพผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ทุกรายไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
2. พระราชทานกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และทรงชื่นชมบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ และจิตอาสาผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกคน ที่เสียสละอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์อุทกภัยดังกล่าว
3. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงิน จำนวน 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) แก่โรงพยาบาลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อฟื้นฟูและซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ ทดแทนที่เสียหายและได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายแพทย์วิโรจน์ โยมเมือง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานเงินดังกล่าว
4. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอากาศยานไร้คนขับ (Drone) สำหรับค้นหา และอากาศยานไร้คนขับ (Drone) สำหรับขนส่งอาหารแก่กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อใช้ในการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ และบรรเทาสาธารณภัยแก่ราษฎร นำมาซึ่งความปลาบปลื้มยินดีให้แก่พสกนิกรชาวไทยและ รัฐบาลเป็นอย่างยิ่ง
>> เพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ บรรจุสารเคมีที่ผลิตรองเท้าวอดกว่า 6 ตู้
13.30 น. ที่เกิดเหตุ พบเพลิงโหมลุกไหม้รุนแรงที่บริเวณตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 6 ตู้ ซึ่งตั้งอยู่ตรงพื้นที่ว่างด้านหน้าของโรงงานดังกล่าว จึงระดมฉีดน้ำสกัดเพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามเข้าไปในตัวอาคารโรงงานและสถานประกอบการข้างเคียง
แต่ทั้งนี้เนื่องจากภายในตู้คอนเทนเนอร์ มีวัตถุและสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตพื้นรองเท้าบรรจุอยู่เต็มทุกตู้ (ตามคำบอกเล่าของพนักงานบริษัทฯ) จึงทำให้ยากต่อการดับเพลิง ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ และเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร จึงต้องช่วยกันฉีดน้ำควบคุมเพลิงอย่างต่อเนื่อง
จากการสอบถามพนักงานของบริษัทฯ บอกว่า บริษัทฯ เป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องจักรหลากหลายประเภทที่ใช้ในโรงงาน ส่วนตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 6 ตู้ เป็นของเพื่อนเจ้าของโรงงานที่มาเช่าพื้นที่ด้านหน้าโรงงาน เพื่อนำตู้มาวางไว้ โดยภายในตู้บรรจุวัตถุและสารเคมียืดหยุ่นที่ใช้ในการผลิตพื้นรองเท้า ซึ่งตอนเกิดไฟไหม้นั้นพวกพนักงานออกไปกินข้าว แต่มีคนนอกโรงงานเห็นว่า เกิดไฟไหม้ขึ้นที่หม้อแปลงไฟฟ้าก่อน จากนั้นประกายไฟได้ตกลงไปบนกองไม้ที่วางอยู่ติดกับตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งคนที่เห็นไฟลุกไหม้ได้โทรไปบอก ทางพวกตนจึงรีบกลับมาแต่พอมาถึงก็พบว่า ไฟลุกลามไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ ไปทั่วทั้ง 6 ตู้แล้ว ทั้งนี้สามารถควบคุมเพลิงได้ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ
>> ผบก.ป. สั่งลุยตรวจเขต8 พบผู้ประสบภัยต้องการความช่วยเหลือจำนวนมาก
14.50 น. กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหาร ป.พัน.5 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตรวจพื้นที่บริเวณโซนเขต 8 ตามคำสั่งได้ออกปฏิบัติภารกิจตรวจพื้นที่และช่วยเหลือประชาชนในอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ตั้งแต่เวลา 22:00 น. ของวันที่ 28 พ.ย. 68 ต่อเนื่องจนถึงเวลา 03:00 น. ของวันที่ 29 พ.ย. 68
ภารกิจดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรม ตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ และประชาสัมพันธ์เส้นทางการจราจรในพื้นที่สำคัญ ได้แก่ บริเวณหน้าบิ๊กซีคลองแห, เส้นทางในพื้นที่ ต.หาดใหญ่, เขต 8 ต.หาดใหญ่, ชุมชนริมทางรถไฟสถานี 2 และศูนย์อพยพโรงพยาบาลสงขลานครินทร์
จากการลงพื้นที่ เจ้าหน้าที่พบประชาชนใน ชุมชนเขต 8 และ ชุมชนริมทางรถไฟ สถานี 2 จำนวนหลายครัวเรือน ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งทางด้านอาหาร, เครื่องนุ่งห่ม, ยารักษาโรค และน้ำดื่ม และได้ดำเนินการนำส่งชายอายุ 81 ปี ซึ่งมีโรคประจำตัวและไม่มีที่อยู่ ให้ไปพักพิงที่ ศูนย์ช่วยเหลือ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อย่างปลอดภัย นอกจากนี่ยังตรวจพบ ร้านสะดวกซื้อ 7/11 จำนวน 2 สาขา ถูกคนร้ายทำลายประตูและมีการลักทรัพย์ภายในร้าน ซึ่งจะดำเนินการติดตามตัวคนร้ายต่อไป
>> กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน พายุโคโตะ ฉบับที่ 7 เผยเส้นทางล่าสุด พยากรณ์พรุ่งนี้ อากาศยังหนาวเย็น ภาคเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 9 องศา ส่วนภาคใต้มีฝนน้อย
17.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้งไว้ด้วยเนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง
สำหรับภาคใต้มีฝนน้อย เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
>> ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบแก๊งลักลอบขนยาเสพติดบนรถไฟ
18.30 น. บรรยากาศ วันแรก (29 พ.ย. 68) Big Cleaning เมืองหาดใหญ่ เพื่อเร่งคืนสภาพเมืองให้เรียบร้อยภายใน 7 วัน โดยจังหวัดสงขลา มีประชากรกว่า 1.4 ล้านคน และเฉพาะอำเภอหาดใหญ่มีมากกว่า 400,000 คน ซึ่งได้รับผลกระทบหนัก ทั้งบ้านเรือน ถนน ระบบสาธารณูปโภค และเศษขยะ-ตะกอนที่ตกค้างในหลายพื้นที่ พร้อมขอความร่วมมือประชาชน เคลื่อนย้ายรถที่จอดกีดขวางทางสัญจร เพื่อให้ทีมทำงานสามารถเข้าพื้นที่ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
อุปกรณ์–กำลังพล จังหวัดสงขลาระดมทรัพยากรจำนวนมาก ได้แก่
รถบรรทุก 6 ล้อ และ 10 ล้อ อย่างละ 100 คัน
รถ JCB 100 คัน
รถแบคโฮ 100 คัน
รถตักหน้าขุดหลัง 100 คัน
รถเก็บขยะ 10 คัน
ถุงดำกว่า 10 ล้านใบ
ชุดอุปกรณ์ทำความสะอาด กว่า 300,000 ชุด กำลังคนสนับสนุนจากองค์กรปกครองท้องถิ่น ,หน่วยราชการ อาสาสมัคร จิตอาสา กำลังทหาร และชาวบ้านในชุมชนกว่า 1,000 คน พร้อมสนับสนุนค่าตอบแทนวันละ 400 บาท เพื่อสร้างรายได้ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูบ้านเมือง
>> เร่งล่ามือปืนรัว 9 มม. กระหน่ำยิง วัยรุ่นเสียชีวิต 2 ศพกลางถนน อ.พนมสารคาม ฉะเชิงเทรา
20:50 น. พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.พิสิษฐ์ธัช นาคชัยวัฒนา ผกก.สภ.พนมสารคาม พรัอมผู้เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานฉะเชิงเทรา แพทย์เวรโรงพยาบาลพนมสารคาม และหน่วยกู้ภัยพนม
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณริมถนนในหมู่บ้านใกล้สำนักสงฆ์พระอาจารย์ซ่วน ทราบชื่อ คือนายวัด (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ชาว อ.ท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา และนายกัน (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. มีปลอกกระสุนกระจัดกระจายเต็มถนน 10 ปลอก ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ของผู้ตาย จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้รีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ให้นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ส่งชันสูตรยังนิติเวชรพ.ตำรวจ และจะเร่งติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
>> จับชาวจีน 41 รายพร้อมชาติอื่นอีก 3 ราย หนีจากพื้นที่กะเหรี่ยงดีเคบีเอ.
21.30 น. ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด จ.ตาก โดย ร้อย.ร.423 ได้จัดกำลังพล 1 ชุดปฎิบัติการออกลาดตระเวนเฝ้าตรวจบริเวณ บ้านห้วยหมี ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก นั้นได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 44 ราย แยกเป็นสัญชาติจีน จำนวน 41 ราย (ช.40 ,ญ.1) สัญชาติเอธิโอเปีย จำนวน 1 ราย(ช.1) สัญชาติไนจีเรีย จำนวน 1 ราย(ช.1) และสัญชาติมาเลเซีย จำนวน 1 ราย(ช.1)
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่ามาจากเมืองเศรษฐกิจพิเศษจีน ไท่ฉางด้านตรงข้ามบ้านห้วยแล้ง ต.ช่องแคบ อ.พบพระ เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ดำเนินการนำบุคคลชาวต่างชาติดังกล่าวส่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจ.ตาก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และยังคงเพิ่มมาตรการในการสกัดกั้น และเฝ้าตรวจการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายต่อไป