วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17:08 น.
นายกฯ อนุทิน ประชุมบูรณาการการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ พร้อมทั้ง 4 กระทรวง ออกมาตรการช่วยเหลือ-เยียวยาน้ำท่วมใต้ พักหนี้-ลดดอกเบี้ย-ปล่อยสินเชื่อซ่อมบ้าน 0%
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 20 อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 เขตพญาไท กรุงเทพฯ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมบูรณาการการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงแรงงาน และกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุม
นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการประชุมว่า “ผมและคณะได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม ณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมดังกล่าว มีบริเวณกว้างครอบคลุมในจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจ จำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้ประสบภัยฟื้นฟูให้กลับมาปกติโดยเร็ว“
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วินาทีนี้ “ความปลอดภัย” และ “ความเป็นอยู่” ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ คือเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาล จะรอช้าไม่ได้ ทุกวินาทีมีความหมายกับประชาชน การประชุมในวันนี้เพื่อเตรียมมาตรการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบให้กลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด ตลอดจนได้ประกาศให้ใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อบูรณาการข้อสั่งการต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว
ในการนี้ได้ให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม เร่งบูรณาการยกระดับประสิทธิภาพแก้วิกฤตอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ด้วย ภายใต้กรอบ “บูรณาการ–ช่วยเหลือ–เยียวยา–ฟื้นฟู” ซึ่งรัฐบาลได้เชื่อมโยงเครือข่าย ทรัพยากร และการสื่อสารให้เป็นทิศทางเดียวกัน เพื่อให้การทำงานสอดคล้องกับสถานการณ์จริงในพื้นที่ โดยได้มีการตั้ง ศป.กฉ. ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการประสานงานความร่วมมือต่างๆ และสื่อสารโดยตรงกับผู้ปฏิบัติงานส่วนหน้าที่อยู่ในพื้นที่
1. ช่วยเหลือระยะสั้น: ให้เข้าถึงอาหาร น้ำดื่ม ยา และที่พักพิงชั่วคราวอย่างทั่วถึง
2. เยียวยาระยะกลาง: เพิ่มรายได้ ลดภาระ โดยมาตรการพักชำระหนี้ สินเชื่อดอกเบี้ย 0% และมาตรการพาณิชย์ เช่น ร้านธงฟ้า
3. ฟื้นฟูสู่ภาวะปกติ: เร่งการเคลมประกันให้เร็วขึ้น พร้อมสินเชื่อดอกเบี้ย 0% เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนและร้านค้า และเร่งให้ระบบน้ำ ไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ตกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
สำหรับการประชุมบูรณาการการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ เป็นการบูรณาการร่วมกันทั้ง 4 กระทรวงภายใต้รัฐบาล โดย กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แบ่งเป็น 3 ระยะการช่วยเหลือ
ระยะที่ 1 การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน เช่น การเตรียมพื้นที่ราชพัสดุเป็นศูนย์พักพิงโดยเร่งด่วน การนำส่ง-กระจายเครื่องอุปโภคบริโภค การขยายวงเงินทดรองราชการ การออกหนังสือเวียนแนวปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้าง
ระยะที่ 2 การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเช่น การพักหนี้-พักดอกเบี้ย คปภ. ดำเนินมาตรการเคลมประกันทันที ได้เงินหลังน้ำลด สินเชื่อเยียวยา การยกเว้นภาษีเงินได้ การขยายเวลาการยื่นแบบภาษี เป็นต้น
ระยะที่ 3 การฟื้นฟู เช่น สินเชื่อเพื่อฟื้นฟู เช่น สำหรับที่อยู่อาศัย มาตรการภาษีเพื่อช่วยค่าซ่อมบ้านค่าซ่อมรถ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ NT จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคมในพื้นที่ประสบอุทกภัยตลอด 24 ชม. พร้อมจัดรถโมบายเคลื่อนที่ใช้ในการกระจายสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และอินเทอร์เน็ต เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการใช้บริการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
“รัฐบาลบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน เร่งจัดการแก้ไขปัญหาอุทกภัย เพื่อช่วยเหลือประชาชนทางภาคใต้ได้ทันต่อสถานการณ์ และผ่านพ้นวิกฤติอุทกภัยในครั้งนี้ และกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว” นายกรัฐมนตรี ย้ำ