กรุงเทพฯ 25 พฤศจิกายน 2568 - กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และหน่วยงานในสังกัด ร่วมปล่อยขบวนรถขนส่งถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็น เพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา และปัตตานี รวม 66 อำเภอ 316 ตำบล 2,258 หมู่บ้าน ซึ่งมีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 239,699 ครัวเรือน ผ่านโครงการ “ส่งต่อพลังน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้” โดยเฉพาะในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วมหลายจุด ทำให้ประชาชนจำนวนมากประสบความเดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า กระทรวงดีอีให้ความสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร มาเป็นพลังขับเคลื่อนในการช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤต เรามุ่งใช้ศักยภาพของทุกหน่วยงานในสังกัด ทั้งด้านข้อมูล การสื่อสาร และเครือข่ายโลจิสติกส์ เพื่อให้การประสานงานและการช่วยเหลือเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และตรงตามความต้องการของพื้นที่ประสบอุทกภัย การร่วมมือกับทุกหน่วยงานในสังกัดครั้งนี้ เป็นการบูรณาการศักยภาพของภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดผลกระทบให้กับพี่น้องประชาชนภาคใต้ให้ได้มากที่สุด และกระทรวงดีอีพร้อมเดินหน้าสนับสนุนทุกมาตรการอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้การฟื้นฟูสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว  

การดำเนินงานครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงดีอีและหน่วยงานในสังกัด ในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการสื่อสารและการขนส่งของชาติให้เป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤตด้วยศักยภาพของเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกพื้นที่สามารถเข้าไปสนับสนุนการกระจายความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และทั่วถึง ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงข้อมูล การขนส่ง และการสนับสนุนภาคสนามร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้การฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้พี่น้องชาวภาคใต้ก้าวผ่านสถานการณ์ครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัยและมั่นคงในระยะยาว

ทั้งนี้ หากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน มูลนิธิ หรือองค์กรการกุศลใด มีความประสงค์ร่วมส่งต่อความช่วยเหลือไปยังพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ดีอีพร้อมสนับสนุนด้านการขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์อย่างเต็มกำลัง โดยสามารถติดต่อได้ THP Contact Center 1545 เพื่อประสานรายละเอียดการรวบรวมและรับส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่อไป โดยมุ่งหวังให้ความช่วยเหลือถูกส่งถึงพื้นที่ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึงที่สุด