หน้าแรก > สังคม

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จไปทรงเปิดการประชุมวิชาการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ ประจำปี 2568

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลา 02:36 น.


สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จไปทรงเปิดการประชุมวิชาการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ ประจำปี 2568

(24 พ.ย. 68) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ ประจำปี 2568 โดยมี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นเจ้าภาพหลัก ณ BANGKOK THONBURI HALL มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

โอกาสนี้ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ

การจัดงานในครั้งนี้ โครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับหน่วยงาน สถานศึกษาในโครงการตามพระราชดำริ ได้แก่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย, กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, กรมส่งเสริมการเรียนรู้, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จัดขึ้น เป็นครั้งที่ 11 ในหัวข้อ "70 พรรษามหามงคล เด็กและเยาวชนร่วมสืบสานการเกษตร รักษ์สิ่งแวดล้อม" เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีโครงการสำคัญ อาทิ โครงการป่ารักน้ำ, โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ และโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ เกิดแหล่งผลิตอาหารกระจายอยู่ทั่วประเทศชาติ ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสานต่อ และพัฒนาให้ยั่งยืน เกิดเป็นโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารฯ ที่ดำเนินงานมานาน 45 ปี

โอกาสนี้ พระราชทานเกียรติบัตรแด่พระภิกษุ และครูผู้ชนะเลิศการประกวดแข่งขันแนวปฏิบัติที่ดี รวม 42 รูป/คน การประชุมฯ ครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,400 คน มีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ ปาฐกถาพิเศษและการเสวนาแนวปฏิบัติที่ดีรายด้านของสถานศึกษา หัวข้อ "การเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม", การประกวดแข่งขันทักษะวิชาการของนักเรียน 7 กิจกรรม ได้แก่ การเล่านิทาน, การตัด ปะ ฉีก, วาดภาพระบายสี, คัดลายมือ, เขียนเรียงความภาษาไทย และภาษาอังกฤษ และการนำเสนอผลงานของนักเรียน

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำรัสเปิดการประชุม ความว่า "โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันมีวัตถุประสงค์สําคัญเพื่อให้นักเรียนได้บริโภคอาหารกลางวันที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ให้มีสุขภาพดีไม่เป็นโรคขาดสารอาหารที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาเล่าเรียน นอกจากนี้ นักเรียนยังได้เรียนรู้วิชาการเกษตรจากการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง  ทำให้มีความรู้ทั้งในด้านวิชาการและได้ฝึกฝนตนเองด้านการทำงานร่วมกัน การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น กิจกรรมโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ยังช่วยเพิ่มพูนความรู้เรื่องธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยเสริมสร้างความคิดด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เยาว์วัย การมีส่วนร่วมในกิจกรรมโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันช่วยให้นักเรียนมีพัฒนาการด้านการคิดอย่างมีเหตุผล การรู้จักสังเกต ความรับผิดชอบต่อหน้าที่หรือการแก้ไขปัญหาที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาเล่าเรียนและการดํารงชีวิตเมื่อเติบโตขึ้น"

จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงของนักเรียนโรงเรียนบ้านในวง สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ชุด "นารีรัตนา ปวงประชาร่มเย็น" และการนำเสนอผลงานแนวปฏิบัติที่ดีรายด้าน 6 ด้านของสถานศึกษาที่ชนะการประกวด ได้แก่ ด้านโภชนาการและสุขภาพอนามัย เรื่อง "เกษตรยังยืนสู่โภชนาการที่ดี" จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนค็อกนิสไทยฯ จังหวัดสกลนคร, ด้านการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา เรื่อง "ผักจากแปลง แปลงเป็นคำ ร้อยกรองลำนำ ทำเกษตรอินทรีย์" จากโรงเรียนวัดบึงทองหลาง (พิทักษ์วิทยาคาร) กรุงเทพมหานคร, ด้านการส่งเสริมอาชีพ เรื่อง "Green Farm Products Eco-Careers ผลิตภัณฑ์เกษตรสีเขียว สร้างอาชีพรักษ์โลก" จากโรงเรียนบ้านใหม่วิทยา จังหวัดลำปาง และเรื่อง "การแปรรูปใบพลู เพื่อเพิ่มมูลค่าสู่ชุมชน" จากศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา "แม่ฟ้าหลวง" บ้านโอโลคีบน จังหวัดเชียงใหม่, ด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น เรื่อง "สืบสานตารีกีปัสผ่านพัดไม้ไผ่" จากโรงเรียนอิบตีดาวิทยา จังหวัดนราธิวาส และเรื่อง "สวนผักของหนู แหล่งเรียนรู้ศาสตร์พระราชาอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทโส้" จากโรงเรียนบ้านห้วยกอกหนองเค็ม จังหวัดสกลนคร, ด้านคุณธรรมและจริยธรรม เรื่อง "เมล็ดพันธุ์แห่ง SUTTHA เมตตาธรรมชาติ" จากโรงเรียนบ้านผาเยอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน, และด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง "เกษตรรักษ์สิ่งแวดล้อม" จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยน้ำขุ่น จังหวัดตาก สะท้อนให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมุ่งมั่นพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารมาอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 45 ปี ทำให้การดำเนินงานตามพระราชดำริมีความก้าวหน้า เกิดผลสำเร็จ ผู้ปฏิบัติงานสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างกัน ช่วยต่อยอดการพัฒนาให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน ทั้งต่อสถานศึกษาและคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ

 

 

 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม