กรมทางหลวงชนบท เผยสถานการณ์อุทกภัยบนโครงข่ายทางหลวงชนบทในพื้นที่ภาคใต้และภาคกลาง รวม 12 จังหวัด พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนติดตามเหตุน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และนำเครื่องมือเครื่องจักรเข้าจัดการกิ่งไม้และสิ่งกีดขวางบนถนนทันทีเมื่อเกิดเหตุ เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน

วันนี้ (22 พ.ย. 68) นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ขณะนี้มีโครงข่ายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน 12 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง สงขลา พังงา ตรัง นครศรีธรรมราช กาญจนบุรี กำแพงเพชร นครปฐม นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และอุทัยธานี ได้รับผลกระทบรวม 53 สายทาง แบ่งเป็น สัญจรผ่านได้ 37 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 16 สายทาง ซึ่งทางภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันตอนบน จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตก สำหรับในส่วนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 (สงขลา) สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 14 (กระบี่) และแขวงทางหลวงชนบทในสังกัด ลาดตระเวนบนโครงข่ายทางหลวงชนบทอย่างใกล้ชิดและให้รายงานสถานการณ์ทุกวันจนกว่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ควบคู่กับการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือเครื่องจักร เข้าดำเนินการตัดกิ่งไม้และจัดการสิ่งกีดขวางบนถนนทันทีเมื่อเกิดเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัย

ทั้งนี้ ทช.จะติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง และจะรายงานให้ประชาชนได้รับทราบเป็นระยะ หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ขอความร่วมมือประชาชน โปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษและโปรดสังเกตป้ายจราจรเตือน ป้ายบอกทาง ป้ายบอกระดับน้ำ ซึ่ง ทช.ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน เรียบร้อยแล้ว โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยบนถนนทางหลวงชนบทได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146