วันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 เวลา 04:22 น.
นายกฯ อนุทิน เป็นประธานเปิดกิจกรรมชาวจังหวัดพิจิตรรวมพลังแห่งความภักดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ โครงการพัฒนาบึงสีไฟเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดพิจิตร
(21 พ.ย.68) ณ โครงการพัฒนาบึงสีไฟเฉลิมพระเกียรติฯ อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมชาวจังหวัดพิจิตรรวมพลังแห่งความภักดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวพิจิตรร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียง
เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้ทักทายผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งร้านภายในบริเวณนั้น พร้อมพูดคุยถึงโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ซึ่งกำลังเป็นกระแสและได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ประกอบการ
โดยนายกรัฐมนตรีสอบถามด้วยความเป็นกันเองว่า “ค้าขายดีไหม วันนี้ขายได้กี่บาท” ระหว่างเดินชมร้านค้า นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับผู้ประกอบการร้านไอศกรีม และอุดหนุนไอศกรีมหลายแท่ง และยังถ่ายรูปกับผู้ประกอบการอย่างเป็นกันเอง สร้างรอยยิ้มและความประทับใจกับร้านค้าในบริเวณดังกล่าว และยังได้ชวนนักเรียนที่อยู่ภายในงานให้ไปเลือกไอศกรีมมารับประทาน พร้อมอุดหนุนขนมถังทองจากแม่ค้าเพื่อนำมาแจกผู้ติดตามที่ร่วมลงพื้นที่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้พบปะพูดคุยกับน้อง ๆ เยาวชนจากโรงเรียนบางลายพิทยาคม ที่นำรูปวาดมาแสดงให้นายกรัฐมนตรีได้รับชม และได้เซ็นลายเซ็นบนรูปภาพวาดของตนเอง จากนั้นเดินทางต่อไปยังบริเวณสถานที่จัดกิจกรรมชาวจังหวัดพิจิตรรวมพลังแห่งความภักดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เมื่อถึงบริเวณเปิดงาน นายกรัฐมนตรี ได้ถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมนำพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ยืนตรงสงบนิ่งถวายความอาลัยเป็นเวลา 1 นาที จากนั้น นายกรัฐมนตรีลอยกระทงดอกไม้ถวายความอาลัย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ดีใจและเป็นเกียรติมากที่ได้มาอยู่ท่ามกลางพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพิจิตร ในโอกาสที่ทุกท่านได้พร้อมใจกันมาร่วมจัดกิจกรรมชาวพิจิตรรวมพลังแห่งความภักดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ”
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การที่ทุกท่านมารวมพลังกันในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงหัวใจของคนพิจิตรอย่างแท้จริง หัวใจที่เข้มแข็งอ่อนโยนและเปี่ยมด้วยไปความสมัครสมานสามัคคีเป็นภาพที่งดงาม และเปี่ยมด้วยความหมาย แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความจงรักภักดี ความกตัญญู และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพิจิตรที่มีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
“รัฐบาลจะน้อมนำแนวทางตามพระราชดำริมาเป็นหลักในการบริหารประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีปรองดอง และการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนในการสร้างสรรค์สังคมและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป”
โดยนายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้ได้ร่วมกับประชาชนชาวพิจิตรพูดถึงศักยภาพและจุดแข็งของพิจิตร ที่จะก่อให้เกิดโอกาสอย่างมากมายให้กับชาววิจิตร พิจิตรเป็นเมืองเกษตรคุณภาพของประเทศไทย ผลิตพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เกษตรกรพิจิตรเป็นคนขยัน อดทน มีฝีมือ และมีภูมิปัญญาที่น่าภาคภูมิใจ สิ่งเหล่านี้คือทุนอันล้ำค่าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด พิจิตรคือเมืองแห่งสายน้ำ และระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ “บึงสีไฟคือหัวใจของจังหวัดพิจิตร” ซึ่งไม่เพียงเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ แต่ยังเป็นศูนย์รวมของวิถีชีวิต วัฒนธรรมอันสวยงามของพี่น้องชาวจังหวัดพิจิตรทุกคน นอกจากนี้ พิจิตรคือเมืองของผู้คนที่มีหัวใจงดงาม ความมีน้ำใจ มีรอยยิ้ม มีมิตรไมตรีแก่คนต่างถิ่นที่เข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งคือจุดแข็งที่หาไม่ได้ง่ายๆ และเป็นเหตุผลให้จังหวัดพิจิตรเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ มีโอกาสต่างๆ อีกมากมากมาย จังหวัดพิจิตรเป็นศูนย์กลางการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าการเกษตร การท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องยกระดับให้ผู้คนทั้งหลายทั่วประเทศ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รู้จักจังหวัดพิจิตร จังหวัดพิจิตรมีทุกอย่างที่สวยงาม การศึกษา การสาธารณสุข และการสร้างโอกาส เพื่อให้พิจิตรไม่ใช่เพียง “เมืองที่เข้มแข็ง”แต่ยังเป็น “เมืองที่เติบโต…แบบยั่งยืน”
“จะต้องทำให้จังหวัดพิจิตร เป็นทั้งศูนย์กลางการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าการเกษตร การเป็นจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งเราต้องยกระดับให้ผู้คนทั้งหลายทั่วประเทศ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รู้จักจังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิจิตรต้องไม่ใช่เป็นเมืองผ่านอีกต่อไป”
ช่วงนี้ ทุกพื้นที่มีความเศร้าโศกเสียใจแต่เราจะไม่ให้ความเสียใจนั้น มาบั่นทอนกำลังใจหรือว่าเป็นอุปสรรค แต่ตรงกันข้ามเราจะน้อมนำพระกรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงมีให้กับพวกเราให้กับประเทศไทยมาตลอดระยะเวลามากกว่า 70 ปี ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันประกอบคุณงามความดี ตามแนวทางพระราชดำริต่าง ๆ นำมาต่อยอดแล้วก็สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับจังหวัดพิจิตรให้มีความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศไทย
สุดท้ายนี้ ขอให้พลังอันยิ่งใหญ่ของพี่น้องชาวจังหวัดพิจิตร ความดีงามที่พี่น้องชาวพิจิตรได้ร่วมกันประกอบมาโดยตลอดชีวิต จงเป็นเหมือนพลังอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยเพื่อนให้พี่น้องชาวจังหวัดพิจิตรทุกคนมีกำลังใจในการขับเคลื่อนจังหวัดพิจิตรและประเทศไทยให้เข้มแข็งยั่งยืนตลอดไป จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ร่วมบรรเลงดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์ยามเย็น กับวงออร์เคสตรามหาวิทยาลัยนเรศวร


