วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13:09 น.
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ความสูญเสียครั้งใหญ่กลางผืนป่าเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี สร้างความสะเทือนใจให้กับเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในพื้นที่อย่างยิ่ง เมื่อพบช้างป่าล้มรวม 3 ตัวภายในสวนผลไม้ หมู่ 9 บ้านคลองตาอิน ตำบลคลองพลู อำเภอเขาคิชฌกูฏ เบื้องต้นคาดว่าทั้งสามเชือกถูกกระแสไฟฟ้าช็อกจากสายไฟที่พาดอยู่ในพื้นที่สวนของชาวบ้าน
ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นสองช่วงเวลา โดยกรณีแรกเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 11 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 22.30 น. ชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ชุดที่ 10 ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ว่าพบช้างป่าล้มในสวนผลไม้ ตรวจสอบพบว่าเป็นช้างป่าเพศผู้ ชื่อ “พลายม้วน” อายุราว 30 ปี น้ำหนักกว่า 5 ตัน มีร่องรอยถูกไฟฟ้าช็อตตามบริเวณงวงและลำตัว
ต่อมาเช้าวันที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่าพบช้างป่าล้มอีก 2 ตัว ห่างจากจุดแรกเพียงร้อยเมตร คาดว่าเกิดจากสาเหตุเดียวกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ
นายชวินทฐ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าอุทยานฯ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ร่วมกับชุดเคลื่อนที่เร็วและนายบำรุง โฉมเฉลา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่และเก็บพยานหลักฐานโดยรอบ พร้อมประสานสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ส่งทีมสัตวแพทย์ 3 นาย และเจ้าหน้าที่รวม 10 นาย เข้าทำการผ่าพิสูจน์ซากช้างทั้งสามตัว เพื่อยืนยันสาเหตุการล้มอย่างเป็นทางการ
ขณะเดียวกัน ได้ประสานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาสอยดาวดำเนินการจัดทำบันทึกแจ้งความเอาผิดเจ้าของสวนผลไม้ในพื้นที่ เบื้องต้นเข้าข่ายกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้สัตว์ป่าซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองถึงแก่ความตาย ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562
หัวหน้าอุทยานฯ ยังสั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนและเฝ้าระวังแนวชายป่าโดยรอบ เนื่องจากยังมีโขลงช้างอีกหลายเชือกที่อาจหากินใกล้พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัดภาคตะวันออก โดยเฉพาะเมื่อพื้นที่ป่าถูกจำกัดและสวนผลไม้ขยายตัวเข้าใกล้แนวป่ามากขึ้น การวางแนวสายไฟหรือรั้วไฟฟ้าโดยไม่ผ่านการควบคุมมาตรฐานจึงกลายเป็นภัยร้ายแรงที่พรากชีวิตสัตว์ป่าไปอย่างน่าเศร้า
การล้มของ “พลายม้วน” และช้างอีกสองเชือกในครั้งนี้ จึงไม่เพียงเป็นความสูญเสียของผืนป่าคิชฌกูฏเท่านั้น หากยังเป็นคำเตือนสำคัญว่า การอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้าง ยังต้องการความเข้าใจและการจัดการอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ชีวิตสัตว์ป่าต้องจบลงด้วยไฟฟ้าที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง
ขอบคุณข้อมูล-ข่าว : เพจ The Echo


