หน้าแรก > สังคม

รมว.ชัยวุฒิ แถลงยันรู้ตัวมือแฮกเกอร์แล้ว แต่ยังจับไม่ได้! อยู่ระหว่างประสานต้นสังกัดตามตัว

วันที่ 7 เมษายน 2023 เวลา 16:56 น.


วันนี้(7 เม.ย.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งโต๊ะแถลงความคืบหน้าหลังรู้ตัวมือแฮกเกอร์แฮกข้อมูลคนไทย 55 ล้านคน โดยนายชัยวุฒิ เผยว่า ขณะนี้รู้ตัวคนร้าย และล็อกเป้าไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถจับกุมได้อยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งในขณะนี้ต้นสังกัด ของนายทหารคนดังกล่าวได้ทราบเรื่องแล้ว แต่การจะจับกุมทหารต้องมีกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งหากเป็นประชาชนทั่วไปสามารถจับกุมได้เลย สำหรับมูลเหตุการก่อเหตุนั้นได้มีการตั้งเอาไว้หลายประเด็นทั้งการเอาข้อมูลไปขาย การสแกมข้อมูลบางส่วน เพื่อนหลอกขายข้อมูลให้กับคนร้ายด้วยกันเอง หรือการดิสเครดิตหน่วยงานและคึกคะนอง ส่วนการขายข้อมูลให้ใครบ้างนั้นต้องรอการตรวจสอบ รวมไปถึงข้อมูลหลุดจากหน่วยงานไหนก็ต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ยืนยันว่า หากคนร้ายยังอยู่ในแผ่นดินไทยจะสามารถจับกุมได้แน่นอน “เขาเป็นทหาร ใครจะไปจับทหารก็ต้องขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชา หรือเป็นกระบวนการระหว่างตำรวจ-ทหาร ที่ต้องพูดคุยกัน มันไม่ใช่ประชาชนธรรมดา ถ้าเป็นประชาชนธรรมดา เราก็จับกุมได้เลย”

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าข้อมูลหลุดมาจากแอปพลิเคชันหมอพร้อมหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ ก็มีในหลายหน่วยงาน จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับแอปพลิเคชันหมอพร้อมด้วย

ขณะที่ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.เผยว่า ได้รับเรื่องข้อมูลรั่วตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม จึงได้สืบสวนจนรู้ตัวคนร้ายต่อมาวันที่ 2 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับตามความผิด 2 ข้อหา คือ พ.ร.บ.คอมฯ และ PDPA ซึ่งทางตำรวจพยายามติดตามจับกุมคนร้าย แต่คนร้ายปิดโทรศัพท์หนีไป ก่อนจะมาตรวจสอบพบภายหลังว่าบุคคลที่ถูกออกหมายจับนั้นเป็นทหารยศจ่าสิบโท ที่ปฎิบัติหน้าที่ในสังกัดที่เกี่ยวกับยานพาหนะ ซึ่งไม่ใช่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี แต่ตรวจสอบประวัติพบว่าคนร้ายรายนี้เป็นบุคคลที่มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์สูง จึงเชื่อได้ว่าการกระทำเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับต้นสังกัด เนื่องจากดูจากเจตนาแล้ว พบว่าจุดประสงค์ของคนร้ายเปลี่ยนตลอดเวลา ซึ่งเบื้องต้นได้มีการประสานไปที่ต้นสังกัดเพื่อตรวจสอบว่าทหารรายนี้ ยังรับราชการอยู่หรือไม่ สำหรับภรรยาของคนร้ายที่มีรายงานว่าเป็นพยาบาลจะมีความเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ภรรยาก็หลบหนีเช่นเดียวกัน

สำหรับข้อมูลที่คนร้ายนำไปเปิดเผย ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลทั่วไป เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร ซึ่งยอมรับว่ามีการรั่วไหลของข้อมูลจริง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะรั่วถึง 55 ล้านรายชื่อหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับแจ้งตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม แล้วทำไมไม่มีการแจ้งเตือนประชาชน นายชัยวุฒิ ระบุว่า ตามกระบวนการต้องมีการสืบสวนสอบสวนก่อน ถ้ารีบแจ้งเตือนบางทีอาจทำให้คนตื่นตระหนก เพราะไม่รู้ว่าเป็นคำอ้างหรือเป็นสแกมไปหลอกลวง แต่ว่าเมื่อมีการพัฒนาของกระบวนการมาเรื่อยๆ จึงมีการพยายามสืบสวนดำเนินคดีมาจนถึงวันนี้ ยืนยันว่าทำให้ดีที่สุด และให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่ามีกฎหมายและหน่วยงานรองรับ เพื่อคุ้มครองประชนชนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

หลังจากนี้หากประชาชนถูกนำข้อมูลไปใช้ก็สามารถแจ้งความได้ หรือฟ้องร้องต่อศาลได้ แต่เมื่อถามว่าไปแจ้งเอาผิดกับหน่วยงานใด หรือบุคคลใด เลขาฯ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ระบุว่า สามารถดำเนินการได้แต่ต้องรอให้จับกุมตัวคนร้ายให้ได้เสียก่อน

 

ข่าวยอดนิยม