วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 เมื่อเวลา 01.00 น. จากกรณีน้ำกัดเซาะดินบริเวณใต้สะพานข้ามถนนปทุมธานี-สามโคก (ฝั่งตะวันออก) ในพื้นที่ ม.3 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และ เข้าท่วมโรงเรียนวัดเมตารางค์รวมถึงบ้านเรือนประชาชน  

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี นายนพพร ขาวขำ รองนายกอบจ.ปทุมธานี ร.ต.อ.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต พร้อมด้วยปลัดอำเภอสามโคก นายกอบต.เชียงรากน้อย ได้ลงพื้นที่ดูจุดน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาทะลุถนนท่วมโรงเรียนบ้านเรือนประชาชนถนนปทุมธานี-สามโคก(ฝั่งตะวันออก) ม.3 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี "ตนเองมาดูแล้วซึ่งเป็นแบบนี้หลายจุดไม่ใช่จุดนี้จุดเดียว เราก็เฝ้าระวังกันอยู่เพราะขณะนี้น้ำเยอะมาก แต่ตรงจุดนี้นั้นได้นำแผ่นเหล็กมากั้นน้ำและนำดินมาอุดตรงที่น้ำรั่วก่อนพร้อมกันนี้จะมีการเปิดผิดถนนเพื่อซ่อมแซมส่วนที่น้ำกันเซาะ

ส่วนเรื่องสาเหตุที่ว่ามีการขุดท่อประปานั้นตอนนี้เราอย่าไปโทษใครเลย เราแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนก่อน และตรงจุดนี้ต้องดำเนินการซ่อมแซมให้เสร็จคืนนี้"

ขณะที่ กรมชลประทานอัปเดตสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุดเมื่อ เวลา 06.00 น.
- สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 
ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,988 ลบ.ม./วินาที
ระดับน้ำ 24.79 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 87 ซ.ม.) แนวโน้มพิ่มขึ้น

- สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท
ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,700 ลบ.ม./วินาที
ระดับน้ำเหนือเขื่อน 17.07 ม.
ระดับน้ำท้ายเขื่อน 16.31 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง  3 ซ.ม.) แนวโน้มเพิ่มขึ้น

บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ตามศักยภาพของคลอง  เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป