หน้าแรก > สังคม

พระเมตตาแห่งงานหัตถศิลป์ไทย สมเด็จพระพันปีหลวง ผู้ทรงปลุกชีวิตให้ “คร่ำโบราณ” กลับมามีลมหายใจ

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13:03 น.


ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยความรักในแผ่นดินและราษฎร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเล็งเห็นคุณค่าอันล้ำลึกของ “งานศิลปหัตถกรรมไทย” ซึ่งสะท้อนรากเหง้าแห่งอัตลักษณ์ของชาติ และเป็นภูมิปัญญาที่บรรพชนได้สั่งสม ถ่ายทอด และสืบต่อกันมาแต่โบราณ โดยพระองค์ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ฟื้นฟูงานหัตถกรรมไทยที่ใกล้สูญหายให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เพื่อเป็นทั้งมรดกทางวัฒนธรรม และยังเป็นการช่วยให้ผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมสามารถดำรงชีพจากงานหัตถกรรมได้อย่างมั่นคง หนึ่งในนั้นคือ ทรงฟื้นชีวิต “งานคร่ำ” ศิลป์แห่งแผ่นดินที่กำลังเลือนหายไปจากสังคมไทยและทรงมีพระราชดำริให้นำงานคร่ำกลับมาฟื้นฟูใหม่ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และสืบสาน

ครูอุทัย เจียรศิริ ครูศิลป์ของแผ่นดินปี 2562 ของสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (SACIT) — ผู้สืบสานพระราชปณิธาน

ในปี พ.ศ. 2522 ครูอุทัยได้รับเลือกให้เป็นครูสอนงานเครื่องถมให้กับนักเรียนศิลปาชีพ สวนจิตรลดา ช่างผู้ซึ่งทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างสรรค์ผลงานงานคร่ำโบราณด้วยหัวใจแห่งความภาคภูมิ ด้วยตระหนักว่างานศิลปหัตถกรรมคร่ำโบราณคือ รากฐานของอัตลักษณ์ไทย ที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเข้าด้วยกัน และเป็นมรดกทางจิตวิญญาณของชาติ ที่ต้องสืบสาน รักษาให้คงอยู่คู่แผ่นดิน ซึ่ง “คร่ำ” เป็นงานที่มีวิธีการตกแต่งลวดลายให้งดงามด้วยการฝังเส้นเงิน เส้นทอง หรือเส้นนาก ลงบนภาชนะชิ้นงานให้เกิดเป็นลายที่สลักไว้  เมื่อสกัดเส้นเงิน เส้นทอง เส้นนาก เต็มลายแล้วขัดผิวภาชนะจึงจะปรากฏเห็นลวดลายที่มีความคมชัด ประณีตงดงาม ด้วยวิธีการทำที่ยากและหลากหลายขั้นตอน งานคร่ำจึงเป็นงานหัตถศิลป์ชั้นสูงที่ใกล้สูญหาย หาช่างผู้ชำนาญในวิชาแขนงนี้ได้ยากยิ่งและมีผู้สืบทอดน้อยราย

แม้วันนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสู่สวรรคาลัย แต่พระราชปณิธานในงานหัตถศิลป์ไทยของพระองค์จะยังคงอยู่คู่ประเทศไทย โดยครูอุทัยมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ ที่จะยังคงรักษา สืบสาน ส่งต่อองค์ความรู้งานคร่ำแก่คนรุ่นต่อไป ผ่านสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีอยู่เต็มหัวใจ เพราะระลึกอยู่เสมอว่าพระองค์ทรงมิได้เพียงฟื้นฟูงานศิลป์ แต่ทรง “ต่อชีวิตผู้คน” และ “รักษาเอกลักษณ์ของแผ่นดินไทย” ให้ดำรงอยู่อย่างงดงามคู่กาลเวลา 

“เพราะพระเมตตาแห่งงานหัตถศิลป์ไทย คือแรงบันดาลใจที่ไม่สิ้นสุด SACIT จึงขอเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมสืบสานคุณค่ามรดกทางภูมิปัญญาของชาติไทยสืบไป”
.

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม