หนุ่มหัวร้อน ทะเลาะแฟน ขี่รถมาจอดในที่ห้าม โดนล็อคล้อ หาซื้อเลื่อยมือมานั่งตัด อ้างทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ตำรวจฝากเตือน โทษหนักทั้งจำทั้งปรับ จ.ชลบุรี

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุสุดป่วนกลางเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา ร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จับกุมชายหัวร้อน หลังใช้ “เลื่อยมือตัดล็อคล้อ” ของเจ้าหน้าที่กลางถนนพัทยาใต้ ท่ามกลางสายตาชาวบ้านและนักท่องเที่ยว

ผู้ก่อเหตุคือ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ สีฟ้า ถูกควบคุมตัวไว้บริเวณริมถนนพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังถูกจับได้คาหนังคาเขาว่ากำลัง “นั่งเลื่อย” ตัวล็อคล้อของตำรวจที่เพิ่งนำมาล็อคไว้ไม่ถึงชั่วโมง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเอ ได้นำรถมาจอดในจุด “ห้ามจอดในวันคู่–วันคี่” ตามข้อกำหนดของเมืองพัทยา บริเวณตั้งแต่หน้าวัดชัยมงคลพระอารามหลวง ยาวไปถึงปากทางพัทยาใต้ ถนนสุขุมวิท เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการล็อคล้อไว้ เพื่อให้ไปชำระค่าปรับที่ สภ.เมืองพัทยา

แต่แทนที่เจ้าของรถจะไปติดต่อเจ้าหน้าที่ กลับเกิดอาการ เดือดจัด เดินเข้าไปซื้อ “เลื่อยมือตัวเล็ก” จากร้านทุกอย่าง 20 บาท ก่อนกลับมานั่งยองๆ ตัดล็อคแบบไม่สนสายตาคนรอบข้าง

เหตุการณ์ทั้งหมดถูกกล้องวงจรปิดจากอาคารใกล้เคียงบันทึกภาพไว้ได้ชัดเจน ขณะชายคนดังกล่าวกำลัง “เลื่อยไปมาอย่างแรง” หวังตัดให้ขาด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะได้รับแจ้งจากพลเมืองดี รีบเข้ามาตรวจสอบและควบคุมตัวไว้ได้ทัน

สอบสวนเบื้องต้น เจ้าตัว ให้การรับสารภาพว่า ทำไปด้วยความ โมโหชั่ววูบ หลังเพิ่งทะเลาะกับแฟนสาว ยืนยันไม่ได้ตั้งใจทำลายทรัพย์สินของราชการ เพียงอยากเอารถกลับบ้านเท่านั้น พร้อมยกมือไหว้ขอโทษเจ้าหน้าที่ทั้งเทศกิจและตำรวจ บอก “ไม่รู้จริงๆ ว่าทำแบบนี้ผิดกฎหมาย”

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา ได้ว่ากล่าวตักเตือน พร้อมให้ผู้ก่อเหตุรับผิดชอบค่าเสียหาย โดยต้องซื้ออุปกรณ์ล็อคล้อชดใช้ให้ใหม่ และเสียค่าปรับ 1,000 บาท ฐานจอดในที่ห้ามจอด

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝากเตือนไปยังประชาชนและนักท่องเที่ยวว่า การทำลายหรือพยายามตัดอุปกรณ์ล็อคล้อ ถือว่าผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 159 วรรคสอง ฐานทำลายหรือทำให้เครื่องมือบังคับรถเสียหาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เจ้าหน้าที่เน้นย้ำว่า หากถูกล็อคล้อ ควรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการปลดล็อคตามขั้นตอน ไม่ควรใช้อารมณ์หรือทำลายทรัพย์สินของราชการ เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้ปัญหาจบเร็ว ยังอาจถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหลายข้อหา

เครดิต Superball th