วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09:19 น.
นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกถึงตกหนักมากในหลายพื้นที่ของประเทศไทย จากอิทธิพล พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” (KALMAEGI) ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ โดยคาดว่าพายุจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนกลาง ช่วงวันที่ 4–5 พ.ย. และจะขึ้นฝั่งเวียดนามตอนกลาง ในวันที่ 6–7 พ.ย. แล้วอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชัน
จากนั้นจะกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคอีสานของไทยช่วงวันที่ 7 พ.ย. 2568 ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคอีสานก่อนจะย้ายสู่ภาคอื่น ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศพยากรณ์อากาศ 24 ชม.ข้างหน้า ดังนี้ บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดฉะเชิงเทราชลบุรี ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และจังหวัดนครปฐม โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้พื้นที่จังหวัดดังกล่าวระวังฝนตกหนัก บางจุดอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง
ส่วนภาคใต้ จะมีฝนฟ้าคะนองและ ฝนตกหนักบางแห่ง ตั้งแต่เพชรบุรีลงไป คลื่นลมอันดามันตอนบนสูง 1–2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
สำหรับแนวโน้มใน 7 วันข้างหน้า วันที่ 4–10 พ.ย. 6 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ ว่า ช่วงวันที่ 4 – 6 พ.ย. ไทยตอนบนมีฝนลดลง อากาศเย็นตอนเช้า,ช่วงวันที่ 7–10 พ.ย. ฝนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะภาคกลาง ภาคตะวันออก และอีสานตอนล่าง จากอิทธิพลของพายุ,ภาคใต้ มีฝนตกหนักต่อเนื่อง คลื่นลมแรง โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 5 – 7 พ.ย. คลื่นสูง 2–3 เมตร
“รัฐบาล ห่วงใยประชาชนในช่วงพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพจากอากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเกษตรกรควรป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตจากฝนและลมแรง สำหรับชาวเรือในอ่าวไทยและอันดามัน ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ฝนฟ้าคะนอง ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 7–9 พ.ย. ขอให้เฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน – น้ำป่าไหลหลาก และติดตามการประกาศแจ้งเตือนจากหน่วยงานราชการอย่างต่อเนื่อง พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น”