กรมทางหลวงชนบท แจ้งเส้นทางเลี่ยงสะพานข้ามแม่น้ำชี (สะพานศิริโยธาพัฒนา สาย ยส.002) ต.สงเปือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร หลังจากรถยนต์และรถบรรทุกไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ขณะนี้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวเดินทางด้วยความระมัดระวังและโปรดสังเกตป้ายเตือนเพื่อความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง โดยเฉพาะบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำชี สะพานศิริโยธาพัฒนา (สาย ยส.002) ซึ่งเชื่อมระหว่างบ้านดอนขะยอม ตำบลสงเปือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร กับ บ้านดอนคำ ตำบลคำไฮ อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ที่เกิดการทรุดตัวของเสาตอม่อสะพานหลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้นำป้ายจราจรและป้ายจำกัดน้ำหนักรถบรรทุกติดตั้งในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 7 (อุบลราชธานี) โดยแขวงทางหลวงชนบทยโสธร ได้ร่วมลงพื้นที่กับ ว่าที่ร้อยตรีขรรค์ไชย ทันธิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ซึ่งจากการร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณสะพานดังกล่าวพบว่าการทรุดตัวของสะพานคงที่ โดยยังคงห้ามรถยนต์ รถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปใช้งาน แต่ยังสามารถอนุญาตให้รถจักรยานยนต์สัญจรผ่านได้ และนอกจาก ทช. ได้ติดตั้งสัญญาณไฟกระพริบ บริเวณทั้งสองฝั่งของสะพาน เพื่อให้ประชาชนสัญจรผ่านได้อย่างปลอดภัยแล้ว ยังได้จัดชุดเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามเหตุอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
สำหรับรถยนต์และรถขนาดใหญ่ ทช. ขอแนะนำเส้นทางเลี่ยง โดยประชาชนสามารถเดินทางได้ ดังนี้

1. ถ้าเดินทางจาก สามแยก บ้านโนนศิลา ทล.2043 เลี้ยวขวา มุ่งสู่ อ.พนมไพรอีก 5 กิโลเมตร วิ่งตรงไปอีก 8 กิโลเมตร ถึงสี่แยกบ้านโนนชัยศรี เลี้ยวขวามุ่งสู่ อ.เมืองยโสธร ทล.202 อีก 16 กิโลเมตร วิ่งไปเจอสี่แยกรอบเมืองตรงไปสามไฟแดงเลี้ยวซ้ายตรงไปอีก 20 กิโลเมตร จะถึง อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร

2. อีกเส้นทางถ้าเดินทางจาก อ.พนมไพร ใช้เส้นทาง ทล.2043 อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ไปยัง อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร 20 กิโลเมตร ถึง อ.มหาชนะชัย เลี้ยวซ้าย ใช้ ทล.2083 ตรงไป อ.คำเขื่อนเเก้วอีก 28 กิโลเมตร เจอสี่แยกไฟแดง อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร แล้วเลี้ยวซ้ายมุ่งเข้า จ.ยโสธร อีก 20 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ทช.จะติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง และจะรายงานให้ประชาชนได้รับทราบเป็นระยะ โดยสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศ หรือติดต่อสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146