วันที่ 24 ตุลาคม 2568 เวลา 16:03 น.
24 ต.ค. 68 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงข่าวภายหลังเข้าพบคณะกรรมการการเลือกตั้ง นำโดยนาย อิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. เพื่อหารือแนวทางจัดทำประชามติควบวันเลือกตั้งทั่วไป หลังใช้เวลาหารือร่วมกันกว่า 1 ชั่วโมง
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เปิดเผยว่า การพูดคุยครั้งนี้เป็นการหารือเบื้องต้น เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการทำประชามติในวันเดียวกับการเลือกตั้ง ส.ส. ว่าหากจะดำเนินการจริง ควรเตรียมงบประมาณและขั้นตอนอย่างไร เพื่อให้เป็นไปอย่างราบรื่นและประหยัดที่สุด หากทำประชามติควบเลือกตั้ง จะมีบัตรเลือกตั้งเพิ่มจาก 2 ใบ (แบ่งเขต–บัญชีรายชื่อ) เป็น 4 ใบ โดยอีก 2 ใบ ใช้สำหรับประชามติแก้รัฐธรรมนูญ และยกเลิก MOU 43–44 ไทย–กัมพูชา ซึ่งอาจสร้างความสับสนแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จึงต้องวางระบบบริหารจัดการและอบรมเจ้าหน้าที่ให้พร้อม
ส่วนงบประมาณที่ใช้จัดประชามติควบเลือกตั้ง คาดอยู่ที่ 9,000 กว่าล้านบาท หากจัดแยกจะพุ่งเกิน 1 หมื่นล้านบาท โดยคำนวณจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 53 ล้านคน ในปี 2569 ยืนยันว่าการทำควบกัน “ประหยัดแน่นอน” และเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประชามติฉบับใหม่ ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการจัดประชามตินอกราชอาณาจักรได้เป็นครั้งแรก
ด้านนาย อนุทิน กล่าวด้วยว่า การทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญและ MOU 43–44 เป็นนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาแล้ว โดยมอบหมายให้ บวรศักดิ์ และ ภราดร ตั้งคณะทำงานร่วมกับกกต. เพื่อวางกรอบการดำเนินงานและรูปแบบบัตรประชามติ ถึงอย่างไรวันที่ 31 ม.ค. 2569 ก็ยุบสภา เราต้องทำให้ทันและรอบคอบที่สุด ทั้งเพื่อความโปร่งใส
ทั้งนี้ กกต. จะมีการจัดทำแผนรายละเอียดและแนวทางปฏิบัติร่วมกับรัฐบาล ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้งและประชามติครั้งสำคัญในปีหน้า



