เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ที่บริเวณศูนย์ปราบปรามแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รอง ผวจ.รรท.ผวจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ติดตามการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา กว่า 100 คน ที่ถูกควบคุมตัวได้ในอาคารที่พักแห่งหนึ่ง พื้นที่ตำบลโคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.สมุทรสาคร ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสมุทรสาคร ตำรวจ สภ.โคกขาม จัดหางานจังหวัด แรงงานจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมือในการจัดระเบียบสังคม หยุดขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า แรงงานต่างด้าวทั้งหมดเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยผิดกฎหมาย แม้บางส่วนจะมีการแสดงพาสปอร์ตเข้าประเทศ แต่กลับไม่มีการลงตราประทับการเข้าเมืองจากด่านตรวจคนเข้าเมือง ส่วนที่เหลือไม่พบหลักฐานใดๆ โดยอ้างว่า มีนายหน้าเป็นผู้นำพามาหลบพักที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรอการนำเข้าทำงานในสถานประกอบการ ซึ่งแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ ได้หลบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ ทางด้านจังหวัดกาญจนบุรี,จังหวัดระนอง และ จังหวัดตาก จากนั้นมีนายหน้าไปรับมาพักชั่วคราวที่สมุทรสาคร ก่อนที่จะมาถูกตำรวจบุกจับกุมตัวไว้ได้ทั้งหมด

ด้านแรงงานยังบอกอีกว่า หลังจากที่นายหน้าพามาพักที่จังหวัดสมุทรสาครแล้ว ก็หายไป โดยอ้างว่าจะพาเข้าทำงานในโรงงาน ซึ่งแต่ละคนที่เดินทางมานั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมๆ แล้วไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท

ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รอง ผวจ.รรท.ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวว่า แรงงานต่างด้าวที่ตรวจพบกว่า 100 รายนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นการเข้ามาโดยผิดกฎหมายทั้งหมด โดยขอยืนยันว่าจังหวัดสมุทรสาคร มีมาตรการในการกวดขันจัดระเบียบสังคมด้านแรงงานต่างด้าวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องขยายผลเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ทั้งหมด ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายก็ต้องนำตัวไปดำเนินคดี แล้วผลักดันกลับสู่ประเทศต้นทาง

พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวด้วยว่า ทางตำรวจได้ทำการขยายผลการจับกุม เพื่อหาผู้ที่ร่วมกันกระทำความผิดทั้งหมด ทั้งในส่วนของผู้นำพาหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ผู้จัดหาที่พักพิง หรือให้ที่พักพิง และอื่นๆ ซึ่งจะต้องรวบตัวทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และในโอกาสนี้ก็ขอให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับทราบว่ามีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่นั้น ช่วยแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อร่วมกันจัดระเบียบสังคมและสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนทุกคน

ร.ต.อ.เขตรัฐฯ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ฝากถึงผู้ประกอบการทุกคน การใช้แรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองนั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายขั้นร้ายแรง ซึ่งนายจ้างจะต้องโทษอาญาทั้งจำและปรับ ดังนั้นจึงขอให้นายจ้างหรือผู้ประกอบการทุกคน ต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และไม่ใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด