หน้าแรก > สังคม

"พิพัฒน์" ร่วมงานสถาปนา ครบรอบ 23 ปี กรมทางหลวงชนบท ขับเคลื่อนทางหลวงชนบท สะพานเศรษฐกิจ - ถนนปลอดภัยเพื่อประชาชน

วันที่ 9 ตุลาคม 2568 เวลา 12:06 น.


วันนี้  (9 ต.ค. 68)  นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากรมทางหลวงชนบท ครบรอบ 23 ปี พร้อมเปิดนิทรรศการถ่ายทอด องค์ความรู้ด้านวิศวกรรม ที่กรมทางหลวงชนบท (บางบัว) กรุงเทพมหานคร โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายพิชิต หุ่นศิริ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท รักษาราชการแทนอธิบดี พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีภารกิจสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศ ให้เชื่อมโยงกันทุกมิติ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อให้ “การเดินทางของประชาชน สะดวก ปลอดภัย และเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ” โดยเฉพาะกรมทางหลวงชนบทซึ่งถือเป็นหน่วยงานหลัก ในการพัฒนาโครงข่ายถนนสายรองที่เชื่อมโยงระหว่างเมืองกับชนบท ให้ประชาชนทุกพื้นที่เข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวได้อย่างเท่าเทียม

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา กรมทางหลวงชนบทได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ของเจ้าหน้าที่ทุกระดับในการพัฒนาถนนให้ได้มาตรฐานและปลอดภัยสำหรับทุกชีวิตบนท้องถนน ซึ่งในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้กำหนดแนวทางชัดเจนว่า “ทุกโครงสร้างพื้นฐานต้องตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง” และในช่วง 4 เดือนจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะเร่งผลักดันให้เกิด ผลงานเป็นรูปธรรม โดยเริ่มจากการเดินหน้าโครงการสำคัญในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา (ตำบลเกาะใหญ่ – จองถนน จังหวัดสงขลา – พัทลุง) และโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา (ตำบลเกาะ เกาะลันตาน้อย จังหวัดกระบี่) ซึ่งทั้งสองโครงการจะช่วยลดระยะเวลาเดินทาง เพิ่มความปลอดภัย และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของภาคใต้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด “สะพานทั้งสองแห่งนี้จะเชื่อมชีวิตผู้คนกับโอกาสใหม่ ๆ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และคุณภาพชีวิต” นายพิพัฒน์กล่าว พร้อมระบุว่า โครงการอยู่ระหว่าง ขั้นตอนการพิจารณารายงานด้านเทคนิคโดยธนาคารโลก (World Bank) ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ในเร็ว ๆ นี้

นอกจากการขับเคลื่อนโครงการเชิงยุทธศาสตร์แล้ว นายพิพัฒน์ยังกล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางหลวงชนบทใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีสายทางได้รับความเสียหาย 59 สายทาง ขณะนี้สามารถเปิดสัญจรได้แล้ว 40 สายทาง และอยู่ระหว่างซ่อมแซมอีก 19 สายทาง พร้อมสั่งการให้กรมทางหลวงชนบท เร่งติดตั้งสะพานเบลีย์ชั่วคราว เปิดทางสัญจรให้ประชาชนโดยเร็ว รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยง ติดตั้งป้ายเตือน และให้ข้อมูลเส้นทางเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน พร้อมย้ำว่า “ทุกถนนที่เสียหายต้องซ่อม กลับมาใช้งานได้เต็มรูปแบบโดยเร็วที่สุด” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมตั้งเป้าให้ เร่งยกระดับมาตรฐานถนนในพื้นที่ เศรษฐกิจสำคัญ สนับสนุนเส้นทางเชื่อมต่อระบบรถไฟทางคู่ เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และเส้นทางท่องเที่ยวหลักทั่วประเทศ เพื่อให้การลงทุนด้านคมนาคมตอบสนองชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเดินทาง และความปลอดภัย

ด้านนายพิชิต หุ่นศิริ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมทางหลวงชนบท ดูแลโครงข่ายถนนทั่วประเทศกว่า 51,000 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัด โดยในปีงบประมาณ 2569 ได้รับงบประมาณกว่า 53,000 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการสำคัญทั้งการก่อสร้างถนน สะพาน และระบบอำนวยความปลอดภัยทางถนน เช่น ถนนเชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ถนนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้า ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และโครงการทางต่างระดับจุดตัดสำคัญทั่วประเทศ พร้อมย้ำว่ากรมทางหลวงชนบท จะเดินหน้าปฏิบัติภารกิจภายใต้นโยบาย “ทางหลวงชนบทเพื่อประชาชน” อย่างเต็มกำลังเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของคนไทยในทุกภูมิภาค

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม