วันที่ 6 ตุลาคม 2568 เวลา 11:50 น.
“เรื่องที่อยู่อาศัย เรื่องสาธารณสุข เรื่องการศึกษา เป็น 3 เรื่องหลักที่ทางภาครัฐต้องช่วยสนับสนุน กทม. เองเราไม่ได้มีที่ดิน เราเป็นแค่คนดูแลที่ดินให้กับรัฐบาลในที่สาธารณะ ดังนั้นคงต้องหาทางออกร่วมกัน หลักการของ กทม. คือเราต้องพยายามหาที่อยู่อาศัยทดแทนก่อน อาจจะเป็นบ้านมั่นคง ก่อนที่เราจะขยับพี่น้องประชาชนไป ก็ขอให้ร่วมมือกัน สุดท้ายแล้ว เชื่อว่าแผ่นดินนี้มีที่ดินเพียงพอสำหรับทุกคน ต้องค่อย ๆ คุยกัน แล้วก็หาทางออกร่วมกัน”
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวกับประชาชนขบวนคนจนเพื่อสิทธิที่ดินและที่อยู่อาศัย พร้อมรับหนังสือ เรื่อง ข้อเสนอและการประชุมหารือเนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานคร จากผู้แทนขบวนคนจนเพื่อสิทธิที่ดินและที่อยู่อาศัย ณ บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร วันนี้ (6 ต.ค. 68)
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันสำคัญซึ่งองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมเป็นวันที่อยู่อาศัยโลก (World Habitat Day) โดยเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญ เป็นพื้นฐานที่ทำให้เรามีความมั่นคง ลูกหลานเรามีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ก็จะมีอาชีพการงานที่ดี
“ขอให้วันนี้เป็นการเดินที่ปลอดภัยและเกิดประโยชน์ ถ้ามีการเหนื่อยก็แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดทาง ส่วนข้อเสนอต่าง ๆ เบื้องต้นรับทุกข้อเสนอ จะนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น ที่ผ่านมา 3 ปี เชื่อว่ามีหลายข้อที่เราดำเนินการให้ดีขึ้นแล้ว และยังมีอีกหลายข้อที่ต้องร่วมมือกันดำเนินการต่อไป” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับหนังสือดังกล่าว มีประเด็นสำคัญซึ่งเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย 9 ข้อ ประกอบด้วย
1. การเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน: ขอให้มีมาตรการรองรับการจัดหาน้ำประปา ไฟฟ้า และการออกทะเบียนบ้านชั่วคราวแก่ชุมชนที่ยังไม่ได้รับสิทธิ เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตและเป็นฐานข้อมูลสำหรับการพัฒนาสังคมในระยะยาว
2. การชะลอการไล่รื้อและหาทางออกที่เป็นธรรม: เสนอให้มีการทบทวนหรือชะลอคำสั่งไล่รื้อที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนผู้มีรายได้น้อย พร้อมทั้งกำหนดกระบวนการเจรจาและหาทางเลือกที่เหมาะสมร่วมกับชุมชน
3. โฉนดชุมชน: ผลักดันให้มีการจัดทำโฉนดชุมชนในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อสร้างหลักประกันสิทธิในการอยู่อาศัยและการพัฒนาของชุมชน
4. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง: ทบทวนมาตรการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย
5. การวางผังเมืองที่ไม่สอดคล้องกับการพัฒนาที่อยู่อาศัย: เสนอให้มีการปรับปรุงผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงและความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชน
6. ที่พักฉุกเฉินสำหรับคนไร้บ้าน (บ้านอิ่มใจ): ขอให้กรุงเทพมหานครสนับสนุนและขยายโครงการที่พักชั่วคราวสำหรับคนไร้บ้านอย่างเพียงพอและทั่วถึง
7. การเปิดเผยข้อมูลที่ดินภายใต้การดูแลของกรุงเทพมหานคร: ให้มีการจัดทำฐานข้อมูลและเปิดเผยข้อมูลที่ดินของกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ในการวางแผนแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส
8. พื้นที่คุ้มครองเศรษฐกิจของคนจน: กำหนดพื้นที่รองรับและคุ้มครองกิจกรรมทางเศรษฐกิจของคนจน เช่น หาบเร่ แผงลอย ตลาดชุมชน ให้สามารถดำเนินชีวิตและสร้างรายได้อย่างมั่นคง
9. การแต่งตั้งคณะกรรมการร่วม: ขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย โดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธาน และให้มีตัวแทนจากภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมีสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อร่วมกันกำหนดนโยบายและกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ภายหลังการรับหนังสือ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ พร้อมด้วยนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน เรื่อง เป้าหมายในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนคนจนโดยเฉพาะในเขตเมือง
โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เมืองจำเป็นต้องมีคนหลากหลายเพื่อที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนเมือง เราจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งปัจจุบันมีชุมชนลักษณะนี้ที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร 2,000 กว่าแห่ง โดยหลักการของเราคือ พยายามทำชุมชนเหล่านี้ให้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น สมมุติว่าเป็นชุมชนที่รุกล้ำริมคลองอยู่ ก็ต้องมีการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พอช. (สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน) กรมธนารักษ์ เพื่อพัฒนาให้เป็นบ้านมั่นคง โดยนำคนออกจากพื้นที่สาธารณะ ไปสู่พื้นที่ที่มีการเช่าอย่างถูกกฎหมาย เพื่อทำให้เกิดความมั่นคงในชีวิตและสามารถปักหลักฐานได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกไล่รื้อเมื่อไร
“เป้าหมายคือ ทุกชุมชนที่อยู่อย่างไม่ถูกต้อง ต้องพยายามเข้าสู่ระบบบ้านมั่นคงให้ได้ ตอนนี้เรามีการโฟกัสในบางพื้นที่ เช่น แถวคลองเปรมประชากร ซึ่งเราทำไปได้ค่อนข้างเยอะ และต้องมีความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง หัวใจคือต้องค่อยเป็นค่อยไป ทุกคนมีชีวิต มีครอบครัวที่ต้องดูแล หากเราจะปรับ ก็ต้องมีที่ที่เขาเข้าไปได้ และค่อย ๆ ทำอย่างเห็นอกเห็นใจทุกคน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของการต้องทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน กทม. ได้มีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง โดยปัญหาคือ เรามีเครื่องมือ “บ้านมั่นคง” เป็นหลัก ซึ่งตั้งแต่ปี 2546 โครงการบ้านมั่นคงมีอัตราการกู้จาก พอช. ประมาณ 5,000 - 6,000 หลังคาเรือน แต่ในระยะหลังจะเหลือประมาณ 100 - 200 หลังคาเรือน นั่นแปลว่า ศักยภาพที่ชาวบ้านจะเข้าถึงแหล่งเงินน้อยลง เราจึงตั้งสำนักงานใหม่ขึ้นมาชื่อ “สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย” โดยที่ไม่ต้องใช้เงิน กทม. แต่เป็นการทำอย่างไรให้ชาวบ้านเข้าถึงกองทุนของ พอช. ซึ่งตอนนี้เราพาชาวบ้านเข้าไปประมาณ 1,800 หลัง และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการกู้ หลังจากนั้นก็จะมีที่ดินที่ชาวบ้านไปได้มา เช่น ที่การรถไฟ ที่ธนารักษ์ เราก็จะมีกระบวนการในการทำให้บ้านที่ไม่มั่นคงทั้งหมด ซึ่งมี 450 ชุมชน เข้าถึงที่ดิน และเข้าถึงกองทุนของ พอช. ต่อไป




15 ธันวาคม 2568
สิ้น พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร. เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 78 ปี
15 ธันวาคม 2568
15 ธันวาคม 2568
สิ้น พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร. เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 78 ปี
15 ธันวาคม 2568