วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เวลา 23:45 น.
“ศุภจี” มอบ 7 นโยบายพาณิชย์ ลุย “Quick Big Win” แก้ปัญหาเศรษฐกิจ วางรากฐานการค้า–ส่งออก ดูแลเกษตรกร SME พร้อมใช้เทคโนโลยีเสริมศักยภาพเศรษฐกิจไทย
(1 ต.ค.68) นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมข้าราชการระดับสูง โดยมี พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ ทูตพาณิชย์ เข้าร่วมผ่านระบบ Zoom เพื่อรับมอบนโยบาย
โดยเน้น 7 นโยบายในการขับเคลื่อนงานของกระทรวงพาณิชย์ เรื่องแรก คือ การเร่งเจรจาในรายละเอียดการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการคำนวณสัดส่วนมูลค่าการผลิตในประเทศ หรือ อาร์วีซี (Regional Value Content: RVC) ป้องกันการสวมสิทธิ์ และกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า เพื่อให้บรรลุข้อตกลง สามารถลงนาม Agreement กับสหรัฐฯ ได้ภายในปีนี้
ปัญหาการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งขณะนี้ได้รับผลกระทบหลายกลุ่มทั้งประชาชน ที่จะต้องเข้าไปดูแลค่าครองชีพเฉพาะหน้า ผ่านโครงการธงฟ้า ในทุกจังหวัดพื้นที่ชายแดน หลังจากนั้นจะจัดทีมลงพื้นที่เพื่อรับฟังความต้องการของแต่ละชุมชน ขณะที่เกษตรกรและผู้ประกอบการ ก็จะช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งการเข้าร่วม มหกรรมธงฟ้า และมหกรรมการค้าชายแดน
การผลักดันการเจรจาการค้าเสรี หรือ FTA ซึ่งปัจจุบันมี14 ฉบับกับ 18 ประเทศ โดยจะต้องเร่งเจรจาฉบับใหม่ๆ ที่กำลังดำเนินการ ทั้งไทย-ศรีลังกา ไทย-ภูฎาน และไทย-เอฟตา โดยหากแล้วเสร็จ ไทย จะมี FTA รวม 17 ฉบับกับ 24 ประเทศ นอกจากนี้ กำลังเร่งเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) และไทย-เกาหลีใต้ รวมถึงตลาดศักยภาพใหม่ๆ ในตะวันออกกลาง และแอฟริกา ขณะเดียวกันต้องส่งเสริมการใช้ประโยชน์จาก FTA ให้ได้มากที่สุด
สำหรับยอดส่งออกไทยช่วง 8 เดือนปี 68 (ม.ค.-ส.ค) ยังเติบโต 13.3% คาดว่า ช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ มูลค่าการส่งออกเฉลี่ย 24,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้การส่งออกทั้งปี เป็นบวก เติบโตได้ 6-7% นำรายได้เข้าประเทศ สูงกว่า 10 ล้านล้าน ถึง 12 ล้านล้านบาท
ส่วนของการดูแลภายในประเทศ คือการลดค่าครองชีพ ที่ทำแล้ว ทำอยู่อย่างต่อเนื่อง จากมหกรรมธงฟ้าที่มีกว่า 1,300 ครั้งต่อปี รวมถึงมหกรรมธงฟ้าในช่วงเทศกาลต่างๆ คาดว่าจะลดค่าครองชีพ ได้กว่า 5,000 ล้านบาท ที่สำคัญ จะหยิบยกความเดือนร้อนของประชาชน ในเรื่องของค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน ที่มีราคาสูง มาทำอีกครั้ง เบื้องต้น จะเพิ่มทางเลือกให้ประชาชน เลือกซื้อยาจากที่อื่นแทนได้ โดยดึงโรงพยาบาล มาลงนามความร่วมมือ
การบริหารจัดการสินค้าเกษตร ที่จะวางปฏิทินพืชเกษตรสำคัญทั้งข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำ ผลไม้และพืชสามหัว ทั้งผลผลิต และความต้องการ แบบล่วงหน้า ไปจนถึงการหาตลาดใหม่เพื่อส่งออกสินค้าเกษตร และมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยเฉพาะการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว มีทั้งเรื่องพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ตรงกับความต้องการของตลาด -เพิ่มผลผลิตต่อไร่ และหันมาเพิ่มสัดส่วนพืชมูลค่าสูงที่ตรงกับความต้องการของตลาดทดแทน ส่วนแผนรองรับในช่วง 4 เดือนนี้ จะเน้นลดต้นทุนการผลิต ผ่านโครงการธงเขียว สนับสนุนปุ๋ยราคาถูก การชะลอการขายช่วงผลผลิตออกสู่ตลาด ผ่านการให้สินเชื่อ เพิ่มสภาพคล่อง และมาตรการช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท เป้าหมาย 4.63 ครัวเรือน ไปจนถึงแผนเร่งรัดการส่งออกข้าว
อีกกลุ่ม คือ การเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้แผนงาน 6 มิติ ตั้งแต่การหาตลาดใหม่ การเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ โดยการเพิ่มสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI - ยกระดับร้านอาหารไทยซีเล็ค -สินค้าตราไทยแลนด์ทรัสมาร์ค (Thailand Trust Mark) การพัฒนาศักยภาพ การช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพิ่มช่องทางตลาดผ่านอีคอมเมิร์ซ และพัฒนาแพลตฟอร์มของกระทรวง ที่ง่ายต่อการเข้าถึง มาช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ประกอบการ
6 ธันวาคม 2568
6 ธันวาคม 2568