เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2568 พล.ร.ต.ชรัมม์ภากร​  พรหมภากร​  รองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดรอง​ (ผบ.กปช.จต.) สั่งการให้ทาง น.อ.ไกรสร โพธิ์ตุ่น หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 (หน.ชค.ทพ.นย.2 ) เข้าทำการจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบมาว่า จะมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก ลักลอบข้ามแดนมาตามช่องทางธรรมชาติยังฝั่งประเทศไทย จึงได้สั่งการให้ ร.ท.วัชรพล อินใจ นขว.ทพ.นย.2 /หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ชค.ทพ.นย.2  ร่วมกับ มว.ทพ.นย. คลองตาดำ

นำโดย ร.ท.อุดรทวีป บุตรศรีวงษ์ ผบ.มว.ทพ.นย.คลองตาดำ ทำการบูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสืบสวน สภ.บ้านแปลงและ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี (ตม.จันทบุรี) ประจำจุดภายในถาวรบ้านแหลม ทำการจับกุมแรงงานด้าวชาวกัมพูชา ที่บริเวณพิกัด 48PTV 20278 51901 คลองด่าน ช่องต้นมะเดื่อคู่ ม.8 บ.แหลมใหม่ ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

พบเป็นคนต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 45 คน แบ่งเป็น ชาย 27 คน และ หญิง 18 คน พร้อมผู้นำพาชาวไทย จำนวน 3 คน จากการสอบสวนผู้นำพาทั้งสามคน ให้การรับสารภาพว่ารับจ้างจากนางนวล ชาวกัมพูชา ในราคาเที่ยวละ 250 บาท/คน ให้นำทางแรงงานชาวกัมพูชา มายังบริเวณคลองส่งน้ำ ม.8 บ.แหลมใหม่ ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และขึ้นรถไปยังพื้นที่จุดนัดรับ-ส่งต่อไป 

ในส่วนของแรงงานที่ถูกจับกุมทั้งหมด ได้เดินทางมาจากหลายพื้นที่ในประเทศกัมพูชา เช่น จ.พระตะบอง จ.บันเตียเมียนเจย จ.เสียมเรียบ และ จ.ไปรเวง ประเทศกัมพูชา เนื่องจากมีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น ไม่มีรายได้จุนเจือครอบครัว หลังจากได้รับการติดต่อจากนายหน้าชาวกัมพูชา จึงได้เดินเท้าข้ามคลองด่าน

จากการให้การเพิ่มเติมพบว่า ทั้งหมดมีความต้องการเดินทางไปทำงานยังพื้นที่ชั้นใน แตกต่างกันในหลายพื้นที่ เช่น พื้นที่ จ.จันทบุรี ระยอง ชลบุรี กรุงเทพมหานคร ปทุมธานีและนครราชสีมา ซึ่งมีการจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางในราคาที่แตกต่างกันออกไปตามระยะทาง โดยจะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ราคา 5,000-7,000 บาท ต่อ/คน

เจ้าหน้าที่ขุดจับกุม จึงนำตัว ผู้ต้องหาหลบภัยเข้าเมือง ทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดจันทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป